post

ป้อมปราการกำลังทรุดตีแผ่เหตุผล ทำไมทีมต่างๆ จึงประสบปัญหาการชนะในบ้าน?

อดีตผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) เคยกล่าวว่า “เราเชื่อมั่นในฟอร์มการเล่นในบ้านเสมอ” แต่ทีมต่างๆ สามารถพึ่งพาปัจจัยนี้ได้มากแค่ไหน? ในฤดูกาลนี้ เพียง 38.7% ของเกมพรีเมียร์ลีกที่ทีมเจ้าบ้านสามารถคว้าชัยชนะได้ ซึ่งถือเป็นสถิติต่ำสุดอันดับสองในประวัติศาสตร์ หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมี 7 จาก 10 เกมที่ทีมเยือนเป็นฝ่ายชนะ 

 

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้สิ่งที่เรียกว่า “ความได้เปรียบในบ้าน” หายไป?

 

บีบีซี สปอร์ต (BBC Sport) จะพาเราไปดูตัวเลขเบื้องหลังของฤดูกาลนี้ และพยายามอธิบายว่าทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น ตลอดยุคพรีเมียร์ลีก มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่มีสัดส่วนการชนะในบ้านต่ำกว่าฤดูกาล 2024-25 นั่นคือฤดูกาล 2020-21 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ในฤดูกาลที่แทบจะไม่มีแฟนบอลอยู่ในสนามเนื่องจากประเทศอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ มีเพียง 37.9% ของเกมที่ทีมเจ้าบ้านสามารถเอาชนะได้ ในขณะที่ชัยชนะของทีมเยือนสูงถึง 40.3% แต่ในขณะที่สัดส่วนของชัยชนะในบ้านอยู่ในระดับต่ำอีกครั้งในฤดูกาลนี้ ไม่มีแนวโน้มในตัวเลขที่ชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อแฟนบอลกลับมาในฤดูกาล 2021-22 ชัยชนะในบ้านกลับมาอยู่ที่ 42.9% และเพิ่มขึ้นเป็น 48.4% ในฤดูกาลถัดมา ซึ่งสูงเป็นอันดับ 7 ในประวัติศาสตร์ของลีก โดยเฉลี่ยแล้ว สัดส่วนของชัยชนะในบ้านนับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกเริ่มต้นในปี 1992-93 อยู่ที่ 45.7% โดยมี 5,795 เกมจากทั้งหมด 12,667 เกมที่ทีมเจ้าบ้านเป็นฝ่ายชนะ นี่ชี้ให้เห็นว่าความได้เปรียบในบ้านไม่เพียงแต่เป็นเรื่องจริง แต่หากไม่มีแฟนบอลอยู่ในสนาม ความได้เปรียบนั้นก็หายไป ในยุคที่ฟุตบอลมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทีมต่างๆ เริ่มปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ทั้งเมื่อเป็นทีมเจ้าบ้านและทีมเยือน ผู้จัดการทีมชั้นนำหลายคนได้พัฒนาแท็กติกที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะเล่นที่บ้านหรือนอกบ้าน เป็ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นหนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยทีมของเขาเล่นด้วยสไตล์เดียวกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ส่งผลให้ประสิทธิภาพคงที่ทั้งในและนอกบ้าน ทีมอื่นๆ เริ่มทำตามแนวทางนี้ ลดความแตกต่างระหว่างการเล่นในบ้านและนอกบ้าน

 

ความกดดันของแฟนบอลนั้น เปรียบเสมือน ดาบสองคม เช่นกัน

 

แม้ว่าการสนับสนุนจากแฟนบอลจะเป็นแรงผลักดันสำคัญ แต่บางครั้งก็กลายเป็นแรงกดดันที่ส่งผลเสียต่อทีมเจ้าบ้าน โดยเฉพาะสโมสรใหญ่ที่แฟนบอลมีความคาดหวังสูง เจอร์เก้น คล็อปป์ (Jurgen Klopp) อดีตผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เคยพูดถึงประเด็นนี้ว่า “บางครั้ง วิธีแทงบอลออนไลน์ แฟนบอลในบ้านสามารถสร้างทั้งพลังและความกดดัน” ความคาดหวังที่สูงอาจทำให้นักเตะรู้สึกกดดันและเล่นได้ไม่เต็มศักยภาพ ในทางกลับกัน ทีมเยือนมักมาพร้อมกับความกดดันที่น้อยกว่าและสามารถเล่นได้อย่างอิสระมากขึ้น มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล เคยอธิบายว่า “เมื่อคุณเล่นเป็นทีมเยือน คุณรู้ว่าต้องทำอะไร: ป้องกันให้ดีและรอโอกาสโต้กลับ นั่นทำให้บางทีมรู้สึกสบายใจมากขึ้น” เทคโนโลยีสมัยใหม่และการวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้ทีมเยือนเตรียมตัวได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ทีมสามารถศึกษาคู่แข่งและสภาพสนามได้อย่างละเอียด ลดความได้เปรียบของทีมเจ้าบ้านที่คุ้นเคยกับสนามของตัวเอง โธมัส ทูเคิล (Thomas Tuchel) อดีตผู้จัดการทีม เชลซี เคยกล่าวว่า “ปัจจุบันเราสามารถเตรียมทีมให้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสนามของคู่แข่ง แม้แต่ขนาดของห้องแต่งตัว” การเดินทางที่สะดวกสบายและการพักผ่อนที่เพียงพอก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าของทีมเยือน การนำเทคโนโลยี VAR (Video Assistant Referee) มาใช้ได้ลดอิทธิพลของแฟนบอลต่อการตัดสินของผู้ตัดสิน วิธีแทงบอลออนไลน์ งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าในอดีต ผู้ตัดสินมักมีแนวโน้มที่จะตัดสินเข้าข้างทีมเจ้าบ้านโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญของเกม ฮาวาร์ด เวบบ์ (Howard Webb) หัวหน้าผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก ยอมรับว่า “VAR ช่วยลดความผิดพลาดในการตัดสินและทำให้เกมมีความยุติธรรมมากขึ้น ไม่ว่าจะเล่นที่ไหน” นี่อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ความได้เปรียบในบ้านลดลง ทีมต่างๆ พัฒนากลยุทธ์การเล่นนอกบ้านที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการเน้นเกมรับและรอโต้กลับ มาเป็นแนวทางที่สมดุลและแข็งแกร่งกว่า ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล สามารถครองบอลและสร้างเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้เล่นในฐานะทีมเยือน โชเซ่ มูรินโญ่ (Jose Mourinho) ผู้จัดการทีมชื่อดัง เคยพูดว่า “ทีมที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ต้องชนะได้ทุกที่ ไม่ว่าจะบ้านหรือนอกบ้าน” ปรัชญานี้ได้แพร่หลายในวงการฟุตบอลสมัยใหม่ ทำให้ทีมเยือนกล้าที่จะเล่นเชิงรุกมากขึ้น เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) กองกลางของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยให้ความเห็นว่า “ปัจจุบัน เรามีความมั่นใจเมื่อเล่นที่ไหนก็ตาม เราไม่ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการเล่นเพียงเพราะเล่นนอกบ้าน” ในขณะที่ แฮร์รี่ เคน (Harry Kane) กล่าวว่า “บางครั้งการเล่นนอกบ้านให้พื้นที่มากกว่า ทำให้ทีมที่เน้นการโจมตีอย่างรวดเร็วมีความได้เปรียบ” แม้ว่าสถิติของฤดูกาล 2024-25 จะน่าสนใจ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่านี่เป็นแนวโน้มระยะยาวหรือเพียงแค่ความผันผวนชั่วคราว ประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกแสดงให้เห็นว่าความได้เปรียบในบ้านยังคงมีอยู่ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในบางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนคือฟุตบอลสมัยใหม่กำลังพัฒนาไปสู่จุดที่ทีมชั้นนำสามารถแสดงศักยภาพได้ไม่ว่าจะเล่นที่ไหน ความท้าทายสำหรับสโมสรคือการรักษาสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบในบ้านและการพัฒนาความแข็งแกร่งเมื่อต้องเล่นนอกบ้าน เพราะในที่สุดแล้ว ตามที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) เคยกล่าวไว้ “แชมเปี้ยนที่แท้จริงชนะได้ทุกที่” และนั่นคือสิ่งที่ทีมทุกทีมในพรีเมียร์ลีกกำลังพยายามทำให้สำเร็จ

 

post

คูต ตัดสินใจไม่อุทธรณ์การปลดออกจาก PGMOL

เดวิด คูต (David Coote) อดีตเจ้าหน้าที่ตัดสินการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ได้ตัดสินใจที่จะไม่อุทธรณ์การปลดออกจากหน่วยงานผู้ตัดสินฟุตบอล PGMOL (Professional Game Match Officials Limited) คูต อายุ 42 ปี ถูกปลดออกจากหน้าที่ในช่วงต้นเดือนนี้ หลังจากการสอบสวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมโดย PGMOL แหล่งข่าวได้แจ้งกับ บีบีซี สปอร์ต ว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ตัดสินใจที่จะไม่อุทธรณ์การปลดออก

บีบีซี สปอร์ต ได้ติดต่อขอความคิดเห็นจากคูตแล้ว

เจ้าหน้าที่ตัดสินรายนี้ถูกพักงานโดย PGMOL เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน เพื่อรอการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากมีวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอ้างว่าเป็นคลิปที่คูตกำลังกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นสโมสรลิเวอร์พูล (Liverpool) และอดีตผู้จัดการทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ (Jurgen Klopp) การสอบสวนได้ขยายวงกว้างขึ้นอีกสองวันต่อมา เว็บแทงบอลยูโร หลังจากหนังสือพิมพ์เดอะซัน (The Sun) เผยแพร่ภาพถ่ายที่อ้างว่าถ่ายระหว่างการแข่งขันยูโร (European Championship) เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เว็บแทงบอลยูโร ซึ่งปรากฏภาพที่ดูเหมือนว่าคูตกำลังดมสารขาวผ่านธนบัตรสหรัฐอเมริกาที่ม้วนเป็นหลอด ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอยังไม่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องอย่างเป็นทางการโดยบีบีซี PGMOL ระบุว่าการกระทำของคูตทำให้ตำแหน่งของเขา “ไม่อาจดำรงอยู่ต่อไปได้” องค์กรยังคงให้การสนับสนุนคูตต่อไป โดยเคยกล่าวว่ามีความ “มุ่งมั่นต่อสวัสดิภาพ” ของเขา ขณะนี้ คูตยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศอังกฤษ (Football Association) และยูฟ่า (Uefa) เกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา

กรณีของคูตสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่เจ้าหน้าที่ตัดสินฟุตบอลระดับสูงเผชิญในยุคปัจจุบัน ที่การกระทำของพวกเขาอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากสื่อและสาธารณชน

พฤติกรรมที่ถูกกล่าวหาครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อความไว้วางใจในระบบการตัดสินฟุตบอลโดยรวม

การตัดสินใจของคูตที่จะไม่อุทธรณ์การปลดออกอาจสะท้อนถึงความยอมรับในข้อกล่าวหาและความต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการถกเถียงทางกฎหมายที่อาจจะนำความสนใจมาสู่กรณีนี้อีกครั้ง

ในอุตสาหกรรมฟุตบอลที่มีการแข่งขันสูงและอยู่ภายใต้สายตาของสาธารณชน เจ้าหน้าที่ตัดสินจำเป็นต้องปฏิบัติตนอย่างมืออาชีพและรักษามาตรฐานจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด

กรณีของคูตจึงเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ตัดสินและบุคลากรในวงการฟุตบอลทั่วโลก ถึงความสำคัญของการรักษาความประพฤติและมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างเคร่งครัด

PGMOL ได้ดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นทางการ โดยพักงานคูตตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน และสรุปว่าการกระทำของเขาทำให้ตำแหน่งของเขา “ไม่อาจดำรงอยู่ต่อไปได้” กรณีของคูตสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ในวงการฟุตบอลสมัยใหม่ ที่เจ้าหน้าที่ตัดสินอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากสื่อและสาธารณชน มากกว่าที่เคยเป็นมา

ความน่าเชื่อถือและจรรยาบรรณ

พฤติกรรมที่ถูกกล่าวหาครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ:

  • ความน่าเชื่อถือส่วนบุคคล
  • ภาพลักษณ์ของระบบการตัดสินฟุตบอล
  • ความไว้วางใจจากแฟนฟุตบอลและสโมสร

การตัดสินใจไม่อุทธรณ์

การที่คูตตัดสินใจไม่อุทธรณ์การปลดออกอาจมีนัยสำคัญหลายประการ:

  • การยอมรับผิดโดยปริยาย

  • ความต้องการหลีกเลี่ยงการถกเถียงทางกฎหมายที่อาจนำความสนใจมาสู่กรณีนี้อีกครั้ง

  • ความประสงค์ที่จะจบประเด็นโดยเร็ว

post

คล็อปป์ย้ายไปเรดบูลล์ สร้างความไม่พอใจในหมู่แฟนบอลดอร์ทมุนด์

เจอร์เก้น คล็อปป์ (Jurgen Klopp) ผู้จัดการทีมฟุตบอลชื่อดัง ได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่แฟนบอลเยอรมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนบอลโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) หลังจากที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมกับเรดบูลล์ (Red Bull) ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลระดับโลก โดยบทบาทใหม่ของเขาจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม และเขาจะดูแลการพัฒนาฟุตบอลของบริษัทในหลายประเทศ

เรดบูลล์กับบทบาทในวงการฟุตบอล

เรดบูลล์เป็นบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังจากออสเตรียที่เริ่มมีส่วนร่วมในวงการฟุตบอลมานานหลายปี โดยเรดบูลล์เข้าซื้อสโมสรฟุตบอลหลายแห่งทั่วโลก เช่น เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (Red Bull Salzburg) ในนักเตะออสเตรีย, นิวยอร์ก เรดบูลล์ (New York Red Bulls) ในสหรัฐอเมริกา, และเรดบูลล์ บรากันติโน (Red Bull Bragantino) ในบราซิล นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนและลงทุนในสโมสรฟุตบอลลีดส์ ยูไนเต็ด (Leeds United) ในอังกฤษ รวมถึง RB ไลป์ซิก (RB Leipzig) ที่กลายเป็นทีมดังในบุนเดสลีกา แม้จะไม่ได้ถือหุ้นโดยตรง แต่เรดบูลล์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเงิน

ความขัดแย้งจากอดีต

การเข้ามาของเรดบูลล์ในวงการฟุตบอลเยอรมันในปี 2009 โดยการซื้อสโมสร SSV มาร์ครันชตัดท์ (SSV Markranstadt) และเปลี่ยนชื่อเป็น RB ไลป์ซิก (RB Leipzig) นั้นสร้างความไม่พอใจในหมู่แฟนบอลเยอรมันหลายกลุ่ม กฎของสมาคมฟุตบอลเยอรมัน (DFB) ระบุว่า สโมสรฟุตบอลในเยอรมันต้องดำเนินการตามกฎ ’50+1′ ซึ่งแฟนบอลต้องเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม RB ไลป์ซิกถูกกล่าวหาว่าฉวยโอกาสจากกฎนี้ด้วยการมีสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงเพียง 17 คน และส่วนใหญ่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรดบูลล์

ทีม RB ไลป์ซิกยังถูกวิจารณ์ว่าเป็นสโมสรที่ไม่มีประเพณีดั้งเดิม โดยถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่สโมสรนี้ได้รับฉายาว่า “สโมสรที่ถูกเกลียดที่สุดในเยอรมัน”

คล็อปป์เจอกระแสวิจารณ์อย่างหนัก

การตัดสินใจของเจอร์เก้น คล็อปป์ ในการเข้าร่วมกับเรดบูลล์ได้สร้างความไม่พอใจในหมู่แฟนบอล โดยเฉพาะแฟนบอลโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเคยเป็นสโมสรที่คล็อปป์เคยคุมทีมตั้งแต่ปี 2008 ถึง 2015 และพาสโมสรคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย แฟนบอลในสื่อสังคมออนไลน์แสดงความผิดหวังกับอดีตผู้จัดการทีมรายนี้ บางคนกล่าวหาว่าเขาขายตัวและลืมความเชื่อมั่นเดิมของตนเอง

คล็อปป์เคยวิจารณ์โมเดลสโมสรหลายแห่งในปี 2017 โดยเขาบอกว่าตนเป็น “โรแมนติกกับฟุตบอล” และชื่นชอบประเพณีดั้งเดิมในวงการฟุตบอล การตัดสินใจเข้าร่วมกับเรดบูลล์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นบริษัทที่ใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือการตลาด ทำให้แฟนบอลบางคนรู้สึกว่าคล็อปป์เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก

บทสรุปของการเปลี่ยนแปลง

แม้จะมีคำวิจารณ์อย่างหนักในช่วงแรก แต่หลายคนคาดการณ์ว่าความไม่พอใจจากแฟนบอลจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป คล็อปป์ยังคงเป็นบุคคลที่ได้รับความรักในวงการฟุตบอลเยอรมัน และความสำเร็จของเขาในอดีตกับสโมสรอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และลิเวอร์พูล (Liverpool) ทำให้หลายคนยังคงชื่นชมเขา

คริสเตียน ฟาล์ค (Christian Falk) นักข่าวฟุตบอลจากหนังสือพิมพ์ Bild กล่าวว่าคล็อปป์มีความลังเลก่อนที่จะตัดสินใจรับตำแหน่งนี้ แต่สุดท้ายแล้วความรักที่แฟนบอลมีต่อเขาน่าจะช่วยให้เรื่องนี้เงียบลงได้ในที่สุด

หากพบปัญหาในการเข้าถึงเว็บไซต์ คุณสามารถตรวจสอบ ทางเข้าสโบเบ็ตล่าสุด ผ่านช่องทางสำรองที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สมาชิกทุกคนสามารถมั่นใจได้ว่า ทางเข้าสโบเบ็ตล่าสุด จะทำให้การเดิมพันของคุณไม่มีสะดุด ด้วยการอัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ