post

เอริค เทน ฮาก กับความกดดันที่เพิ่มขึ้น 7 เกมใน 22 วันหลังพักเบรกทีมชาติจะเป็นตัวชี้วัดอนาคต

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) พ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล (Liverpool) 0-3 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford) ส่งผลให้พวกเขาร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 14 ในตาราง พรีเมียร์ลีก (Premier League) โดยมีเพียง 3 คะแนนจาก 3 นัดแรกของฤดูกาล ความกดดันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างหนักสำหรับกุนซือชาวดัตช์ หลังจากที่เขาพาทีมจบอันดับ 8 ในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งถือเป็นอันดับต่ำสุดของสโมสรในยุคพรีเมียร์ลีก

อะไรรออยู่ข้างหน้าสำหรับปีศาจแดง?

หลังจากพักเบรกทีมชาติ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงสนาม 7 นัดในเวลาเพียง 22 วัน ระหว่างช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนกันยายนและตุลาคม โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. เกมเยือนเซาแธมป์ตัน (Southampton) ทีมน้องใหม่ในวันที่ 14 กันยายน
2. เปิดบ้านพบบาร์นสลีย์ (Barnsley) ในศึกคาราบาวคัพ (Carabao Cup) รอบ 3 วันที่ 17 กันยายน
3. เยือนคริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 21 กันยายน
4. เปิดบ้านพบทเวนเต้ (Twente) ในยูโรปา ลีก (Europa League) นัดแรก วันที่ 25 กันยายน
5. เปิดบ้านรับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 29 กันยายน
6. บุกเยือนปอร์โต้ (Porto) ในยูโรปา ลีก วันที่ 3 ตุลาคม
7. เยือนแอสตัน วิลล่า (Aston Villa) ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 6 ตุลาคม

ในช่วงเวลาที่ความกดดันถาโถมเข้าหา เอริค เทน ฮาก การติดตามผลบอลแบบเรียลไทม์จาก sbobet live จึงกลายเป็นสิ่งที่แฟนบอลหลายคนให้ความสำคัญ เพื่อดูว่าทีมจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้หรือไม่ โปรแกรมที่ยากลำบากเช่นนี้ทำให้การเช็ก sbobet live ผลการแข่งขันกลายเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกแต้มมีความสำคัญในการฟื้นฟูความมั่นใจของทีม

ความท้าทายที่รออยู่

โปรแกรมที่ยาก

เมื่อเทียบกับผลงานฤดูกาลที่แล้ว โปรแกรมชุดนี้ถือว่าค่อนข้างยากสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมเยือน คริสตัล พาเลซ ที่แพ้ไปถึง 0-4 ในฤดูกาลที่แล้ว และเกมเหย้าพบ ท็อตแน่ม ที่เสมอ 2-2 ในเดือนมกราคม เอริค เทน ฮาก จำเป็นต้องพาทีมทำผลงานให้ดีกว่าเดิมเพื่อบรรเทาความกดดันที่กำลังเพิ่มขึ้น

ถ้วยรายการรองไม่อาจช่วยได้มากนัก

แม้ว่า เอริค เทน ฮาก จะพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ (FA Cup) และ คาราบาวคัพ ในฤดูกาลที่แล้ว แต่ความสำเร็จในถ้วยรายการรองอาจไม่เพียงพอที่จะรักษาตำแหน่งของเขาไว้ได้ หากผลงานในลีกยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวลือว่าทางสโมสรได้มีการพูดคุยกับผู้จัดการทีมคนอื่นๆ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

สิ่งที่เอริค เทน ฮากต้องทำ

ปรับระบบการเล่นให้แน่นหนา

ปัญหาสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการเสียประตูจากการโดนโต้กลับเร็ว โดยเฉพาะในเกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 ทั้ง 3 ประตูเกิดจากการเสียบอลในแดนตัวเอง เอริค เทน ฮาก จำเป็นต้องปรับระบบการเล่นให้แน่นหนาขึ้น โดยเฉพาะในแดนกลาง

เร่งปรับตัวนักเตะใหม่

มานูเอล อูการ์เต้ (Manuel Ugarte) มิดฟิลด์ตัวใหม่ของทีมจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับ พรีเมียร์ลีก โดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาในแดนกลางที่กำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ คาเซมิโร่ (Casemiro) โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังในเกมล่าสุด

แก้ปัญหาเรื่องการจบสกอร์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำประตูได้เพียง 2 ลูกจาก 3 เกมแรกในลีก ทั้งที่สร้างโอกาสได้มากพอสมควร พวกเขาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการจบสกอร์โดยด่วน โดยหวังว่า ราสมุส โฮยลุนด์ (Rasmus Hojlund) กองหน้าคนใหม่จะกลับมาจากอาการบาดเจ็บและช่วยทีมในเรื่องนี้ได้

บทสรุป

7 เกมใน 22 วันหลังพักเบรกทีมชาติจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะชี้วัดอนาคตของ เอริค เทน ฮาก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาจำเป็นต้องพาทีมกลับมาทำผลงานที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพรีเมียร์ลีก มิฉะนั้นแล้วความกดดันที่มีอยู่อาจเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่ยากจะแก้ไขได้ทันก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติในเดือนตุลาคม ใน 7 เกมที่รออยู่ข้างหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในลีกและ ยูโรปา ลีก โดยแฟนบอลสามารถติดตามผลผ่าน sbobet live เพื่อรับข้อมูลแบบทันทีทันใด ขณะที่เอริค เทน ฮากพยายามปรับระบบการเล่นและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาล

post

เคียซ่า แลนดิ้งแผ่นดินอังกฤษ เตรียมตรวจร่างกายหงส์จ่อปิดดีล รายแรกยุค อาร์เน่อ สล็อท

ในที่สุดลิเวอร์พูล ก็จ่อเตรียมปิดดีล เฟเดริโก้ เคียซ่า (Federico Chiesa) ดาวเตะตัวจี๊ดทีมชาติ อิตาลีหลังเจ้าตัวบินตรงแลนดิ้งเมืองผู้ดีคาดเตรียมตัวตรวจร่างกาย หากไม่มีอะไรผิดพลาด เคียซ่า น่าจะพร้อมเปิดตัวเป็นนักเตะคนแรกในยุค อาร์เน่อ สล็อท (Arne Slot) ภายในวันศุกร์นี้

เมื่อเวลา 16.30 น.ตามเวลาที่อังกฤษ เฟดริโก้ เคียซ่า บินถึงแดนผู้ดี เตรียมเปิดตัวกับหงส์แดง เป็นแข้งรายแรกในซัมเมอร์นี้ 

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล (Liverpool) จะมีการปิดดีล จอร์จี้ มามาร์ดาซวิลี่ (Giorgi Mamardashvili) ไปเรียบร้อยแล้วแต่ตัวนักเตะยังถูกปล่อยให้ทางด้าน บาเลนเซีย (Valencia) ใช้งานก่อนอีก 1 ฤดูกาลดังนั้น การย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล (Liverpool) นั้นจะเกิดขึ้นในฤดูกาลหน้า ดังนั้นในดีลของ เฟเดริโก้ เคียซ่า (Federico Chiesa) หากปิดดีลได้ทุกอย่างไม่มีปัญหาใดๆ จะทำให้เขากลายเป็นนักเตะใหม่รายแรกของทีมหงส์แดง ในช่วงซัมเมอร์นี้ทันที ซึ่งถือเป็นรายแรกในยุคของ อาร์เน่อ สล็อท (Arne Slot) อีกด้วย สำหรับรายละเอียดของดีลนี้ทาง ฟาบริซโอ โรมาโน่ (Fabrizio Romano) รายงานว่า ค่าตัวอยู่ที่ 13 ล้านยูโร บวกแอดออน ระยะเวลาในการเซ็นต์สัญญา อยู่ที่ 4 ปีด้วยกัน หากการตรวจร่างกายไร้ปัญหา เฟเดริโก้ เคียซ่า (Federico Chiesa) น่าจะพร้อมเปิดตัวภายในวันศุกร์นี้ ซึ่งตำแหน่งของ เคียซ่า ถูกมองว่าจะนำมาซัพพอร์ต และทดแทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) หลังคิงโม เหลือสัญญาในถิ่นแอนฟิลด์ เข้าสู่ช่วงปีสุดท้าย แถมจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววเรื่องสัญญาใหม่ ด้วยอายุของ บังโม ตอนนี้แล้วการต่อสัญญาออกไป อาจจะยังไม่เกิดขึ้นทำให้ทางสโมสร จะปล่อยออกไปแบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์ ดังนั้นการมาถึงของ เฟเดริโก้ เคียซ่า (Federico Chiesa) ก็ถูกมองว่าจะนำมาแทนการจากไปของเขานั่นเอง  สำหรับทีมหงส์แดง ลงแข่งพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 2 นัด ชนะรวดทั้ง 2 นัดเก็บ 6 คะแนนเต็มได้สำเร็จ แต่ทีมหงส์แดง มีศึกใหญ่ที่รออยู่ในสัปดาห์นี้ โดยทีมของ อาร์เน่อ สล็อท จะต้องยกทัพไปเยือน โอลด์ทราฟฟอร์ด ทำศึกแดงเดือด กับ แมนฯ ยูไนเต็ด สำหรับนักลงทุนทั้งหลาย สามารถเข้าไปเช็คราคาก่อนแข่งได้ที่ ทางเข้า sbobet มือ ถือ สะดวกรวดเร็ว ได้ทุกที่นอกจากนี้ ทางเข้า sbobet มือ ถือ ยังสามารถดูผลการแข่งพร้อมวางเดิมพันสด ได้ตลอดในช่วงเวลาการแข่ง ลิงก์ ทางเข้า sbobet มือ ถือ สมาชิกทุกท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอด อัพเดตทุกๆ วัน สำหรับศึกแดงเดือดนั้น ก่อนแข่ง ลิเวอร์พูล ก็ถูกมองว่าเป็นต่อ ทีมเจ้าบ้านอยู่นิดๆ ต้องรอดูวันแข่งอีกทีว่าราคาจะไปในทิศทางไหน

เคียซ่า ปลื้มหลังเตรียมเปิดตัวเป็นนักเตะหงส์แดง พร้อมขอบคุณแฟนๆ ม้าลายที่คอยสนับสนุนเขามาโดยตลอด

 

ก่อนที่จะเดินทางมายังอังกฤษ ทางเฟเดริโก้ เคียซ่า (Federico Chiesa) ถูกนักข่าวที่แดนมักกะโรนี สอบถามถึงความรู้สึกของเขา ซึ่งทาง เคียซ่าก็ตอบว่า เขาขอบคุณแฟนๆ ยูเวนตุส (Juventus) มากๆ ที่คอยสนับสนุนเขามาตลอดช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งอยู่ แต่ตอนนี้ถึงเวลาของ ลิเวอร์พูล (Liverpool) แล้ว เขามีความสุขมากๆ และอดใจรอที่จะได้ลงเล่นในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ไม่ไหวแล้ว ในตอนนี้ทาง เคียซ่า เดินทางมาถึงอังกฤษ เพื่อเตรียมตัวตรวจร่างกายกับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) เรียบร้อยแล้ว ดีลนี้จบลงด้วยด้วย ค่าตัวในการย้ายทีม 10 ล้านปอนด์ แอดออน อีก 2.5 ล้านปอนด์ สัญญา น่าจะอยู่ที่ 4 ปี ตามรายงานข่าวจากหลายๆ แหล่งยืนยันออกมา และแม้ว่า ลิเวอร์พูล(Liverpool)  จะคว้าตัว เฟเดริโก้ เคียซ่า (Federico Chiesa) ได้แล้ว หลายๆ กูรู ก็ยังเชื่อว่า ทีมหงส์แดง จะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ก่อนตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้จะปิดตัวลง คาดว่า ลิเวอร์พูล จะปิดดีลเพิ่มอย่างแน่นอน แฟนหงส์แดง รอติดตามกันได้เลย

post

เบรนท์ฟอร์ดบรรลุข้อตกลงซื้อตัวกองหลังลิเวอร์พูล ท่ามกลางความสนใจจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

เบรนท์ฟอร์ดตกลงซื้อตัว เซ็ปป์ แวน เดน เบิร์ก จากลิเวอร์พูล

เบรนท์ฟอร์ด (Brentford) ทีมใน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับลิเวอร์พูล (Liverpool) ในการซื้อตัวกองหลังชาวดัตช์ เซ็ปป์ แวน เดน เบิร์ก (Sepp van den Berg) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความสนใจจากสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) แห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี

รายละเอียดการซื้อขาย

ตามรายงาน เบรนท์ฟอร์ด ตกลงที่จะจ่ายค่าตัว 25 ล้านปอนด์ บวกกับโบนัสเพิ่มเติมอีก 5 ล้านปอนด์ สำหรับกองหลังวัย 21 ปีรายนี้ ซึ่งถือเป็นการทำกำไรอย่างมหาศาลสำหรับลิเวอร์พูล ที่เคยซื้อตัวแวน เดน เบิร์กมาจากสโมสรพีอีซี ซโวลเล่ (PEC Zwolle) ในเนเธอร์แลนด์ด้วยค่าตัวเพียง 4.4 ล้านปอนด์เมื่อปี 2019

แวน เดน เบิร์กได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลเพียง 4 นัดเท่านั้น นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงขึ้นอยู่กับตัวนักเตะ ซึ่งทราบดีว่าไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นก็ให้ความสนใจอยู่เช่นกัน

สำหรับแฟนบอลที่สนใจติดตามและสนับสนุนทีม สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ แทงบอล sbobet ยังไง เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการเชียร์ทีมโปรด

ความสนใจจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

สโมสรจากเยอรมนีพร้อมที่จะตกลงข้อเสนอในลักษณะเดียวกันกับลิเวอร์พูล แต่จำเป็นต้องขายกองหลังในทีมออกไปก่อนหนึ่งราย โดยมีรายงานว่า เอ็ดมอนด์ ทาปโซบา (Edmond Tapsoba) โยนาธาน ทาห์ (Jonathan Tah) และ โอดิลอน คอสซูนู (Odilon Kossounou) เป็นผู้เล่นที่ได้รับความสนใจจากทีมอื่นๆ

การเคลื่อนไหวอื่นๆ ของลิเวอร์พูล

ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ย้ายไปเบรนท์ฟอร์ด

ก่อนหน้านี้ในช่วงซัมเมอร์ มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 21 ปี ฟาบิโอ คาร์วัลโญ (Fabio Carvalho) ได้ย้ายจากลิเวอร์พูลไปร่วมทีมเบรนท์ฟอร์ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โจ โกเมซ พร้อมลงสนามพบเบรนท์ฟอร์ด

ตามรายงานจาก Sky Sports News เผยว่า โจ โกเมซ (Joe Gomez) กองหลังทีมชาติอังกฤษของ ลิเวอร์พูล กำลังฝึกซ้อมได้อย่างดีและมีลุ้นที่จะได้ลงเล่นในเกมเปิดบ้านนัดแรกของฤดูกาลใหม่ ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งจะพบกับ เบรนท์ฟอร์ด โดยจะถ่ายทอดสดทาง Sky Sports

โกเมซวัย 27 ปี ไม่ได้มีชื่อในทีมชุดที่เอาชนะ อิปสวิช (Ipswich) ในนัดเปิดฤดูกาล ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของเขาในช่วงซัมเมอร์นี้

แอสตัน วิลล่า สนใจโกเมซ

มีรายงานว่า แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) เป็นหนึ่งในทีมที่ให้ความสนใจ โกเมซ โดยทีมของ อูไน เอเมรี (Unai Emery) กำลังมองหาตัวแทนของ ดิเอโก้ คาร์ลอส (Diego Carlos) ที่กำลังเป็นเป้าหมายของฟูแล่ม (Fulham)

สำหรับผู้ที่สนใจในการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดนักเตะและการ แทงบอล sbobet ยังไง สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสในการวิเคราะห์และสนุกสนานกับการแข่งขันฟุตบอล

บทความนี้นำเสนอความเคลื่อนไหวล่าสุดในตลาดซื้อขายนักเตะของ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการย้ายทีมของ เซ็ปป์ แวน เดน เบิร์ก จากลิเวอร์พูลไปยังเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการวางแผนทีมของทั้งสองสโมสรในฤดูกาลนี้ นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการย้ายทีมของ โจ โกเมซ ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับแนวรับของลิเวอร์พูลในอนาคตอันใกล้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปรับขุมกำลังใหม่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปรับขุมกำลังใหม่

ถือว่าเป็นข่าวดีมากทีเดียวสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับการเปลี่ยนแปลงขุมกำลังของทีม แต่ขุมกำลังคราวนี้ไม่ใช่เรื่องในสนาม แต่เป็นเรื่องการบริหารทีม ตอนแรกที่ทีมผูกอำนาจนอกสนามไว้ที่ เอ็ด หมด ซึ่งเอ็ดทำได้ดี แต่เรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลยังไม่ใช่สิ่งที่เค้าเก่งเท่าไรนัก หลังจากยื้ออยู่นานตอนนี้ก็มีการแบ่งโครงสร้างกันใหม่พร้อมกับปรับขุมกำลังด้านบริหารทีมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เอ็ด วู้ดเวิร์ด

คนแรกที่เราต้องพูดถึงก็คือ เอ็ด หรือ พี่เอ็ด ของเหล่าแฟนบอลที่คราวนี้แม้เจ้าตัวยังดำรงตำแหน่ง CEO บริหารทีมตำแหน่งสูงสุดเหมือนเดิม แต่ว่าเรื่องของฟุตบอล การซื้อขายนักเตะ เค้าจะลดบทบาทตรงนี้ลง ไปดูเรื่องการหาเงินเข้าคลังสโมสรและการบริหารค่าใช้จ่ายแทน ซึ่งน่าจะทำให้แมนยูได้พาร์ทเนอร์ดีๆอีกเพียบแน่นอน เพราะว่าเอ็ดไม่ต้องมาสนใจเรื่องที่เค้าไม่ค่อยถนัดเท่าไรแล้ว

จอห์น เมอร์เท่อห์

คนต่อไปนี้แหละสำคัญมาก นั่นก็คือ จอห์น เมอร์เท่อห์ เค้าเป็นคนที่ถูกแต่งตั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลคนแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตำแหน่งนี้ตอนแรกมีการเรียกร้องกันมานานมากแต่บอร์ดบริหารก็ยังไม่อนุมัตเสียที สุดท้ายก็ทนแรงต้านไม่ไหว ตั้งเค้าขึ้นมา คนนี้น่าสนใจอาจจะอยู่นอกสายตาของใครหลายคนแต่ว่าฝีมือถือว่าใช้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนานักเตะอย่าง หนูแม็ค, แรชฟอร์ด และ กรีนวู้ด ให้ขึ้นชุดใหญ่ได้ รวมถึงมีความสามารถในการซื้อขายนักเตะด้วย น่าจะทำให้การซื้อขายนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าเป้ามากขึ้น

ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์

คนนี้บอกตามตรงว่าตำแหน่งผู้อำนวยการทางด้านเทคนิค ยังคงต้องดูต่อไป เพราะว่าเจ้าตัวก็เพิ่งเข้ามารับงานตรงนี้ ตอนแรกไปคุมทีมชุด u16 ของทีมก่อน จากนั้นก็ขยับขึ้นมาตรงนี้ เรื่องดีเอ็นเอความเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันนี้ไม่เถียงเลยเต็มเปี่ยม ประสบการณ์การเล่นฟุตบอลทั้งโทรฟี่ และ จำนวนนัดในการลงสนามก็ไม่มีใครเถียงว่านี่คืออีกหนึ่งคนที่เป็นจิ๊กซอว์สำคัญ แต่ตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิค อาจจะต้องดูกันต่อไปว่า เจ้าตัวจะมีผลงานและผลักดันเรื่องอะไรต่อไป

3 เรื่องขอชม โซลชาร์ เกม UCL ล่าสุด

3 เรื่องขอชม โซลชาร์ เกม UCL ล่าสุด

ต้องบอกว่าเล่นได้ผิดหูผิดตามาก สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมล่าสุดที่พวกเค้าสามารถเอาชนะทีมแกร่งประจำกลุ่มอย่าง ปารีส แซงเชคแมงต์ ไปได้ 2-1 เห็นสกอร์อาจจะทำเหมือนว่าชนะไปแบบเฉียดฉิว แต่ถ้าใครได้ดูเกมสดทั้งเกม ต้องบอกว่า แมนยู ชนะได้แบบต้องบอกว่าเล่นดีเลยทีเดียว เล่นดีแบบนี้ต้องขอชม โซลชาร์ ในฐานะกุนซือของทีมด้วยขอยกมา 3 เรื่อง

3-5-2 ปิดเกมรุกชะงัก

อย่างแรกเลย เชื่อว่าแฟนแมนยูเองก็คงคิดไม่ถึงเหมือนกันว่า โซลชาร์ จะมาติดตั้งฟอร์เมชั่นตัวนี้ในเกมนี้ ส่วนใหญ่โซลชาร์จะเลือกใช้ฟอร์มเมชั่น 4-3-2-1 เป็นหลัก หรือบางทีก็ 4-3-3 แต่ฟอร์เมชั่นตัวนี้ไม่ค่อยเห็นเท่าไร การเลือกมาใช้แบบนี้ทำให้ฝ่ายเจ้าบ้านอย่าง ปารีส เองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ฟอร์เมชั่นตัวนี้ทำให้เกมรุกที่ร้อนแรงของ ปารีส หยุดชะงักแบบเห็นผลเลย ดิมาเรีย เอ็มปัปเป้ เนย์มาร์ ทำอันตรายอะไรไม่ได้มากนัก

ตวนเซเบ้ การเสี่ยงที่คุ้มค่า

มองจากไลน์อัพเชื่อว่าหลายคนจากที่ง่วงนอน คงตื่นตาตั้งทีเดียว เพราะว่ารายชื่อแต่ละคนต้องบอกว่า ไม่น่าเชื่อเลย กลางที่ยัด เฟร็ด กับ แมคโท มาเป็นรับเต็มตัวก็ทำให้งง ส่ง เทลเลส นักเตะใหม่ มาเป็นทางปีกซ้าย ยังไม่หมด เซนเตอร์สามคนเป็น ลุค ชอว์, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ และ ตวนเซเบ้ ใช่อ่านไม่ผิด ไม่มีการใช้ แมกไกรว์ในเกมนี้ แถมเอาตวนเซเบ้มาเล่นด้วย ถ้ายังอึ้งไม่พอ ตวนเซเบ้ ไม่ล่ก เล่นดี วิ่งขึ้นลงตามเกมตัวท็อปฝั่งเจ้าบ้านทันด้วยนะ

การเปลี่ยนตัวที่ได้ผล

อีกหนึ่งเครดิตที่ต้องยกให้กับโซลชาร์แบบเต็มๆก็คือ การแก้เกมของโซลชาร์ ที่จัดว่าเด็ดดวงจริง อย่างแรกการส่ง ป็อกบา ลงมาแทน เตลเลส ที่ทำหน้าที่ได้ดี แต่น่าจะเหนื่อย บวกกับรับมากไป พอ ป็อกบา ลงมา ทำให้เกมแดนกลาง ดูแน่นขึ้น มีการครองบอลเพื่อชะลอเกมแล้วหาจังหวะจ่ายสวยๆของป็อกบาตัดหลัง ทำให้ ปารีส ที่บุกเพลิน ไม่กล้าลอยขึ้นสูงกลัวโดนสวน แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ป็อกบา จ่ายยัดให้ แรชเฟิร์ด จากนั้นเค้าพลิกแล้วลากไปสองสามก้าว ยิงตูมเข้าไป ทำดีแบบนี้ก็ต้องชม

การบ้านของ ลิเวอร์พูล

การบ้านของ ลิเวอร์พูล

ถือว่าเป็นการจบซีซั่นแบบสะบักสะบอมที่สุดครั้งหนึ่งของแชมป์เก่าอย่างลิเวอร์พูลเลยทีเดียว แม้ว่าจะดูเหมือนประสบความสำเร็จ กับการจบอันดับที่สาม ไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้ตามเป้าหมาย แถมทำได้ดีกว่าที่คิดอีกด้วย สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องมองว่า ลิเวอร์พูล มีการบ้านเล่มใหญ่ ข้อยาก รออยู่เหมือนกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปตามดูการบ้านของลิเวอร์พูล

การฟื้นคืน สภาพ ฟานไดค์

การบ้านข้อแรก เรามองว่าการคืนสภาพ เวอร์กิล ฟานไดค์ ให้เร็วที่สุด น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการขาดหายของเค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูล เป๋เกือบทั้งซีซั่นทีเดียว คำถามก็คือตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในสภาพร่างกายอย่างไร พร้อมจะลงสนามได้หรือไม่ ไหนจะเรื่องความฟิต และ สนิมที่เกาะขาอยู่ได้สลัดออกไปหมดหรือยัง เรื่องเหล่านี้อาจจะไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัวเอง หากลิเวอร์พูล ทำให้ ฟานไดค์ กลับมาเป็นคนเดิมได้เร็วเท่าไร ยิ่งดีกับทีมมากขึ้นเท่านั้น

คู่ขาของ ฟาน ไดค์

จากที่เห็นกันในซีซั่นที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า พอขาด ฟานไดค์ไป พวกเค้าแทบจะหาใครมาทดแทนไม่ได้เลย ไหนจะทำให้ทีมเสียสมดุลเกมรุก เกมรับไปอีก ดังนั้นการบ้านข้อต่อไปน่าจะเป็นการหาตัวแทน คู่หูของฟานไดค์ ที่ไว้ใจได้ และเล่นส่งเสริมกับฟานไดค์ได้ดีที่สุด ตรงนี้ลิเวอร์พูลมีการซื้อนักเตะคนใหม่เข้ามาแล้ว ก็ต้องดูว่า อิบราฮิม่า โคนาเต้ จะใช้คนที่ว่าหรือไม่

กองหน้าต้องมีเปลี่ยน

การเล่นของสามประสานในแดนหน้าอย่าง มาเน่ , ฟิร์มีโน่ และ ซาลาห์ ไม่มีใครเถียงเรื่องคุณภาพที่ทำได้ดีเสมอ แต่ก็ต้องยอมรับว่าซีซั่นที่ผ่านมา มีเพียง ซาลาห์ ที่คงมาตรฐานได้ ส่วนอีกสองคนตกลงไปพอสมควร ยังดีที่มี โชต้า เข้ามากดดันตำแหน่งและเพิ่มมิติในเกมรุกที่ต่างออกไปได้ คำถามก็คือ น่าจะถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงสามประสานแดนหน้าแล้วหรือไม่ หากไม่เปลี่ยน จะมีวิธีการเล่นอย่างไรให้ไม่เหมือนเดิม ไม่งั้นจะโดนดักทางได้อีก

วิเคราะห์แกเร็ธ เบล ควรไปไหนดีระหว่าง สเปอร์ส กับ แมนยู

วิเคราะห์แกเร็ธ เบล ควรไปไหนดีระหว่าง สเปอร์ส กับ แมนยู

เป็นอีกข่าวที่มาแรงมาจนทำให้บ่อนพนันเริ่มหวั่นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ นั่นก็คือ การย้ายมาของ (อดีต) สุดยอดปีกอย่าง แกเร็ธ เบล ที่ตอนนี้เราแยกไม่ออกจริงๆว่าเค้าเป็นนักฟุตบอลหรือ นักกอล์ฟกันแน่ แต่ที่รู้แน่คือเค้าไม่เป็นที่ต้องการของ รีล มาดริด ที่ต้องการเคลียร์เค้าออกไปเพื่อจัดการเพดานค่าเหนื่อยนักเตะที่สูงเกินไป คำถามสำหรับสถานการณ์นี้ก็คือ เบล ควรไปไหนดีระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ สเปอร์ส ที่มีข่าวคั่วกันอยู่สองทีมเท่านั้น

กลับบ้านเก่าที่สเปอร์ส

ช้อยส์แรกที่เรามองว่าเป็นไปได้มากกว่าเป็นที่ สเปอร์ส อย่างแรกเลยหากจะเลือกกลับพรีเมียร์ลีค การได้กลับมาเล่นที่บ้านเก่าทีมเดิม (หากยังต้องการ) ตัวอยู่ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจและถูกต้องมาก อย่าลืมว่าการย้ายจากสเปอร์สไปรีล มาดริด แม้จะมีแฟนบอลก่นด่าบ้างที่ทิ้งทีมไป แต่เค้าก็ไปอย่างมีศักดิ์ศรีทำรายได้ให้กับสโมสรมากมาย เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนก็คงจะไม่ซีเรียสอะไรหากเค้ากลับมาสวมใส่อีกครั้งหนึ่ง กับสองการกลับมาของเค้ามันเหมือนจะการันตีการลงสนามได้มากกว่าตำแหน่งนี้ ถ้าเบลมา ยังไงก็ได้ลง(แต่ต้องหลังจากปรับสภาพด้วย) น่าจะทำให้เจ้าตัวแฮปปี้มีโอกาสลงสนามตามใจต้องการ

เผชิญความท้าทายที่ แมนยู

อีกหนึ่งดีลที่เค้าว่าแรงเหมือนกันก็คือ แมนยู เพราะว่าตอนนี้ดูทางแมนยูจะไม่ได้มาเลยในตำแหน่งปีกขวาทั้งซานโช่ และ กรีลิช การได้เบลมาแทนที่ ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่เหลืออยู่ในตลาดตอนนี้ อย่าลืมว่านี่เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นแบบยืมตัวเท่านั้น หากเบลไปเค้าจะได้เจออะไรใหม่ ความท้าทาย เพื่อนร่วมทีม แท็คติคส์ ค่าการตลาดภาพลักษณ์ ค่าเหนื่อยฯลฯ ส่วนโอกาสลงตัวจริงอาจจะน้อยกว่าไปสเปอร์ส แต่การไปเล่นให้แมนยูมองว่ามีโอกาสซื้อขายมาขาด มากกว่าเล่นที่สเปอร์ส ก็ต้องดูว่าสุดท้าย โปรเบล จะเลือกสถานีลูกหนังป้ายหน้าอยู่ที่ไหนกันแน่

ถ้าไม่ขายเค้าไป เซาท์แธมป์ตัน

เซาท์แธมป์ตัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีมในสโมสรพรีเมียร์ลีค ที่เป้าหมายของพวกเค้าค่อนข้างชัดเจนมาก นั่นก็คือ การปั้นนักเตะเพื่อขายออกไป แล้วประคองสถานภาพของทีมไม่ให้ตกชั้นไปด้วย ความเจ๋งของพวกเค้าก็คือ แม้ว่าพวกเค้าจะเสียนักเตะระดับแกนหลักของทีมไปกี่คน พวกเค้าก็ยังเล่นดีอยู่ไม่ตกชั้น แล้วไปหานักเตะมาปั้นใหม่ขายได้ตลอดเวลา มีการทำคอนเทนต์หนึ่งขึ้นมาว่า ถ้าเรารวมดาวเอาแบบไม่เก่ามากของ เซาท์ถ้าไม่ขายเค้าเหล่านั้นไป ทีมจะมีไลน์อัพอย่างไร

ผู้รักษาประตู กับกองหลัง

มาดูแผงหลังกันก่อน ผู้รักษาประตูเป็น แม็คคาธี่ ที่ตอนนี้อยู่ที่เซาท์เหมือนเดิม กองหลังสี่ตัวต้องบอกเลยว่าของจริงทั้งนั้น ไล่มาตั้งแต่ ลุค ชอว์, เวอร์กิล ฟานไดค์, ฟอนเต้(ลีลล์) และ นาธาเนียล ไคลน์ ของคริสตัล พาเลซ ถ้าหลังสี่ตัวนี้ยังอยู่ ในฟอร์มปัจจุบันบอกเลยว่า เหนียวระดับแชมป์ลีค

กองกลาง

แผงกองกลางที่เค้าจัดกันเป็นแบบ 4 ตัว ตามสูตร 4-4-2 ตัวละครมีดังนี้ ซานดิโอ มาเน่ , เจมส์ วอร์ด พราวส์, ปิแอร์ ฮอย์เบิร์ก และ แกเร็ธ เบล เอาแค่ชื่อที่ว่ามานี้ต้องบอกว่าเลยว่าฟอร์มตอนนี้จิ๊ดมาก (ไม่นับเบล) หรือมองไปตอนที่เบลก่อนย้ายจากเซาท์ไปสเปอร์ส ก็โหดอยู่นะ หรือแม้แต่ เจมส์ วอร์ด ที่แม้จะไม่ถูกขายออกไป แต่เกมกับเอฟเวอร์ตัน เค้าแสดงให้เห็นว่าแม้จะไม่ได้ถูกซื้อไปไม่ได้ความว่าไม่มีทีเด็ดนะ

กองหน้า

ทีนี้กองหน้าของเค้า สองคนเป็น แดนนี่ อิงส์ และ ดูซาน ทาร์ดิช สำหรับรายแรก แม้ว่าจะเป็นนักเตะปัจจุบันแต่ก็ต้องยอมรับว่า เค้ากลับชาติมาเกิดใหม่ได้อีกครั้งแบบน่าชื่นชมทีเดียว จนเราคิดเล่นๆว่า หากทีมไหนขาดกองหน้าคมๆ ประสบการณ์สูง อิงส์ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน ส่วนดูซาน ทาร์ดิช ต้องบอกเลยว่าตอนอยู่เซาท์ทำทีมใหญ่น้ำตาตกในมาหลายรอบแล้ว แม้ว่าจะอายุเยอะแล้วตอนนี้ แต่เล่นให้กับอาแจ็กซ์ น้องดาวรุ่งหลายคนมีอายเลยทีเดียว

เกิดอะไรขึ้นกับลิเวอร์พูลในเกมล่าสุด

เกิดอะไรขึ้นกับลิเวอร์พูลในเกมล่าสุด

ต้องถือว่าเป็นเกมที่สร้างความช็อคให้กับเหล่าเดอะค็อปไปทั่วโลก เมื่อลิเวอร์พูลทีมรักของพวกเค้า แพ้อีกแล้ว ต่อเลสเตอร์ ยังอาการไม่ดี ไม่ฟื้น แถมทำให้ตัวเองมีโอกาสโดนแซงร่วงลงมาจากกลุ่มพื้นที่ท็อปโฟร์ด้วย เกิดอะไรขึ้นกับพวกเค้าในเกมล่าสุดที่แพ้ต่อเลสเตอร์ ซิตี้

คาบัค โดนรับน้อง

เกมนี้มองจากไลน์อัพ มีทั้งข่าวร้ายและดี เนื่องจากเค้าได้ส่งเซนเตอร์แบ็คคนใหม่อย่าง โอซาน คาบัค ลงสนาม แต่ว่าต้องส่งลงเพราะว่า ฟาบินโญ่ เจ็บแบบไม่มีทางเลือกเลยต้องส่งลง แล้วก็เป็นคำตอบที่แฟนบอลเข้าใจว่าทำไมไม่ส่งลงสนามสักที เพราะว่าเกมนี้ คาบัค โดนรับน้องพรีเมียร์ลีคเยอะเลย ยิ่งมาเจอกับทีมที่เล่นสวนกลับเร็วๆอย่าง เลสเตอร์ ทำให้ คาบัค วิ่งจนหัวหมุนเลยทีเดียว แถมโดนหลอกกินฟาลว์ตลอด จนเสียใบเหลืองไปในเกมนี้

การสื่อสารกันในทีม

การเล่นฟุตบอลมันเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม เลยทำให้ประเด็นสำคัญอยู่ที่การสื่อสารภายในทีมมันต้องดีมากด้วย แล้วเกมนี้ คาบัค กับ อลิสซอน ผู้รักษาประตูคงต้องกลับไปทำการบ้านมาใหม่ คงต้องไปเรียนรู้ให้มากกว่านี้ เพราะว่าเกมนี้ประตูที่เสียไปมาจากการไม่สื่อสารกันให้ชัดเจน โดยเฉพาะประตูที่สองที่ อลิสซอน วิ่งออกมาตัดเกมไกลมาก จนชนกับ คาบัค ล้มกองลงไปทั้งคู่ บอลไหลไปเข้าทางวาร์ดี้ เลี้ยงยิงเข้าง่ายๆไป

เกมรุกกลับมาทำได้ดี

เรื่องดีกันบ้าง เกมนี้สามประสานแดนหน้า กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเลย โดยเฉพาะการประสานงานที่นำมาสู่ประตูแรกของ เฟอร์มิโน่ และ ซาลาห์ ลูกนี้ถือว่าเป็นเทคนิคที่มาพร้อมกับจังหวะที่ลงตัว น่าเสียดายที่มันมีแค่จังหวะนั้นที่เราเห็นถึงความวูบวาบทั้งเกม

บาดเจ็บอีกแล้ว

เกมนี้มีปัญหาอีกแล้ว ช่วงกลางครึ่งแรก พวกเค้าเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน เจมส์ มิลเนอร์ เหมือนเจ็บกล้ามเนื้อ เล่นต่อไม่ไหว ทำให้ทีมต้องใช้ ธิอาโก้ ลงมาเล่นแทน ซึ่งทำให้เกมแดนกลาง ยวบลงแบบเห็นได้ชัด เกมนี้ธิอาโก้ โดนเจ้าถิ่นรุม 2 ตลอดทำให้ออกบอลไม่ถนัด แล้วโดนสวนกลับหลายรอบ จนเป็นที่มาของประตูที่ 2, 3 ด้วย คงต้องกลับไปแก้ไขกันใหม่

ความน่าสนใจของนิวคาสเซิ่ล ในสายตานักลงทุน

ความน่าสนใจของนิวคาสเซิ่ล ในสายตานักลงทุน

ข่าวการโดนเทคโอเวอร์ของสโมสรฟุตบอลอังกฤษจากกลุ่มทุนชาวต่างชาติ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกซีซั่นโดยเฉพาะทีมในระดับพรีเมียร์ลีค และ แชมเปี้ยนชิพ ที่นักลงทุน หรือ กลุ่มลงทุนมองว่าทีมฟุตบอลเหล่านี้สามารถยกระดับได้อีก ล่าสุดมีข่าวว่า กลุ่มทุนจากตะวันออกกลางหันกลับมาสนใจจะเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ลอีกแล้ว อะไรทำให้ทีมนี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง

ทีมฟุตบอลเดียวของเมือง
โดยปกติแล้วทีมฟุตบอลแต่ละเมืองจะมีตั้งแต่สองทีมขึ้นไปเป็นอย่างน้อย อย่างเมืองแมนเชสเตอร์ จะมีทั้งฝั่งซิตี้ และ ยูไนเต็ด เมืองลิเวอร์พูล ก็จะมีลิเวอร์พูลกับเอฟเวอร์ตัน หรือ ฝั่งลอนดอนมีเพียบเลยทั้งอาร์เซนอล เชลซี สเปอร์ส ฯลฯ แต่เชื่อไหมว่า นิวคาสเซิล เป็นเพียงแค่สโมสรเดียวในเมือง เรียกได้ว่า พอถึงวันแข่งคนทั้งเมืองพร้อมใจกันแต่งชุดเสื้อทีมขาวดำเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแสดงออกว่าต้องการเชียร์หนึ่งเดียวของเมืองทีมนี้ในการแข่งขันทุกเกม

ฐานแฟนบอลเยอะมาก
จากผลของข้อแรกทำให้เกิดอะไรขึ้น ฐานแฟนบอลของทีมนิวคาสเซิ่ลจะเยอะมาก แม้ว่าตอนนี้พวกเค้าจะเล่นในแชมเปียนชิพก็จริงแต่ความจุของสนามระดับ 50k เต็มตลอดในเกมที่พวกเค้าเล่นเป็นเจ้าบ้าน เพียงแค่นี้ก็บ่งบอกถึงฐานแฟนบอลในเมืองได้แล้ว นี่ยังไม่นับแฟนบอลที่อยู่นอกเมืองอีก ทีนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานจนมีแฟนบอลต่างถิ่นมากมาย เอาคนที่เรารู้จักกันดีอย่าง ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านก็เป็นแฟนบอลทีมนี้นะ ฐานแฟนบอลมากขนาดนี้เป็นตัวชูโรงในสายตาของนักลงทุนเลยทีเดียว

ทีมรอกลุ่มทุนเข้าไปทำให้โต
นอกจากฐานแฟนบอล หากดูองค์ประกอบของทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ สนาม และอื่น พวกเค้าพร้อมจะเป็นทีมที่เติบโตได้เลย หากได้กลุ่มทุนเข้ามาสนับสนุนอย่างถูกทาง ลองนึกภาพตอนเชลซีก่อนที่อับราโมวิชจะเข้ามาคุมทีม ตอนนั้นเชลซีก็กำลังจะยกระดับตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน แต่พอได้เงินทุนเข้าไปก็เหมือนติดปีกเลย นิวคาสเซิ่ลก็เหมือนกัน ถ้าทำได้นะบอกเลยว่าพรีเมียร์ลีคเตรียมรับน้องใหม่หน้าเดิมได้เลย