เรอัล มาดริด (Real Madrid) ไม่ประสบความสำเร็จในการอุทธรณ์โทษแบน 2 นัดที่มีต่อ จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) กรณีด่าผู้ตัดสิน กองกลางทีมชาติอังกฤษวัย 21 ปี ถูกแสดงใบแดงโดยตรงในช่วงครึ่งแรกของเกมที่ทีมเสมอกับ โอซาซูน่า (Osasuna) 1-1 ในศึก ลา ลีกา (La Liga) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ผู้ตัดสิน โฆเซ่ มูนูเอร่า มอนเตโร่ (Jose Munuera Montero) ระบุในรายงานการแข่งขันว่า เบลลิงแฮม (Bellingham) พูดว่า “f*** you” ใส่เขา สมาพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) จึงออกโทษแบน 2 นัด เนื่องจากนักเตะแสดง “ทัศนคติที่ดูหมิ่นหรือไม่ให้เกียรติต่อผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่ หรือผู้มีอำนาจทางการกีฬา”

หลังจบเกม เบลลิงแฮม (Bellingham) อ้างว่าเขาไม่ได้ด่าผู้ตัดสิน แต่เป็นการพูดกับตัวเอง 

เรอัล มาดริด (Real Madrid) แจ้งต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ว่า เบลลิงแฮม (Bellingham) พูดว่า “f*** off” ไม่ใช่ “f*** you” อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการระบุว่าสโมสรพยายาม “แสดงให้เห็นถึงการไม่มีลักษณะดูหมิ่นหรือก้าวร้าว” ของคำว่า “f*** off” แต่เรื่องนี้ “ไม่เกี่ยวข้อง” เนื่องจากไม่สามารถยืนยันได้ว่า เบลลิงแฮม (Bellingham) พูดแบบนั้นจริง 128coffee ผลจากการถูกแบน เขาจะพลาดลงเล่นในเกมลีกที่พบกับ คิโรน่า (Girona) วันอาทิตย์นี้ และเกมเยือน เรอัล เบติส (Real Betis) วันที่ 2 มีนาคม นอกจากนี้ เขายังจะพลาดนัดแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (UEFA Champions League) ที่พบกับ แอตเลติโก มาดริด (Atletico Madrid) เนื่องจากได้รับใบเหลืองที่สามในรายการยุโรปจากเกมที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เมื่อวันพุธ

สำหรับ ประเด็นเรื่องการคุกคามผู้ตัดสินและการวิพากษ์วิจารณ์

สัปดาห์นี้ สมาพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) ประณามการกระทำ “น่ารังเกียจ” ที่ มอนเตโร่ (Montero) และครอบครัวถูกคุกคามบนโซเชียลมีเดียหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนหน้านี้ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ส่งจดหมายร้องเรียนอย่างเป็นทางการถึงสมาพันธ์ฟุตบอลสเปนและสภากีฬาระดับสูงของสเปน โดยกล่าวหาว่าผู้ตัดสินลำเอียง “โกง” และ “เสื่อมเสียความน่าเชื่อถือโดยสิ้นเชิง” หลังจากทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) แพ้ เอสปันญ่อล (Espanyol) 0-1 โดยทีมเรอัล มาดริด (Real Madrid) อ้างว่า คาร์ลอส โรเมโร่ (Carlos Romero) กองหลัง เอสปันญ่อล (Espanyol) ควรถูกไล่ออกก่อนที่เขาจะยิงประตูชัยในช่วงท้ายเกม ในวันศุกร์ สมาพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) เปิดตัวแคมเปญรณรงค์ให้ 128coffee เคารพผู้ตัดสิน สโลแกน “เคารพผู้ตัดสิน เคารพฟุตบอล” จะถูกแสดงในเกมทีมชาติหญิงของสเปนใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (UEFA Nations League) ที่พบกับ เบลเยียม (Belgium) วันศุกร์ รวมถึงเกม ลา ลีกา (La Liga) และดิวิชั่น 2 ทุกคู่ในสุดสัปดาห์นี้ ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ ฮันซี่ ฟลิค (Hansi Flick) ผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า (Barcelona) หยิบยกประเด็นที่ เรอัล มาดริด (Real Madrid) วิจารณ์ผู้ตัดสินขึ้นมาพูดโดยไม่มีใครถาม เขากล่าวว่า “สิ่งที่พวกเขา [เรอัล มาดริด (Real Madrid)] กำลังทำกับผู้ตัดสินในสเปนตอนนี้เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ เราต้องคิดถึงครอบครัวของผู้ตัดสิน พวกเราทุกคนทำผิดพลาดได้ และถ้ามันเกิดขึ้นในเกม ผมคิดว่าเป็นความรับผิดชอบของโค้ชและนักเตะที่จะต้องปกป้องพวกเขา เราต้องปกป้องเกมการแข่งขัน เพราะเราไม่สามารถเล่นโดยไม่มีผู้ตัดสินได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องทำ”

 (Tottenham Hotspur) ต้องเผชิญกับความผิดหวังอีกครั้งหลังจากพ่ายแพ้ให้กับ แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) 2-1 ในศึก เอฟเอ คัพ (FA Cup) ทำให้พวกเขาตกรอบฟุตบอลถ้วยในประเทศเป็นครั้งที่สองภายในเวลาเพียงสี่วัน ก่อนหน้านี้พวกเขาก็พ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) 4-0 ใน คาราบาว คัพ (Carabao Cup) ส่งผลให้โอกาสลุ้นแชมป์ในประเทศของทีมจบลง

กุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกลู (Ange Postecoglou) ยอมรับว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ยืนยันว่าเขาพร้อมรับคำวิจารณ์ อย่างไรก็ตาม เขาขอให้แฟนบอลเห็นใจนักเตะที่กำลังเจอปัญหาการบาดเจ็บและสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์

สเปอร์ส พลาดท่าให้ แอสตัน วิลล่า 

เกมการแข่งขันที่ วิลล่า พาร์ก (Villa Park) เริ่มต้นได้อย่างน่าผิดหวังสำหรับ สเปอร์ส เพราะพวกเขาเสียประตูตั้งแต่นาทีแรก ทำให้ ปอสเตโคกลู แสดงสีหน้าผิดหวังอย่างชัดเจน หลังจากนั้นทีมพยายามทำเกมบุกเพื่อกลับเข้าสู่การแข่งขัน แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของ แอสตัน วิลล่า ได้

แม้จะมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่แนวรุกของ สเปอร์ส ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ จนทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ และตกรอบไปในที่สุด

แฟนบอลไม่พอใจ เล็งเป้าไปที่ แดเนียล เลวี่

หลังจากความพ่ายแพ้ แฟนบอลของ สเปอร์ส แสดงความไม่พอใจ โดยเป้าหมายของความไม่พอใจส่วนใหญ่พุ่งไปที่ แดเนียล เลวี่ (Daniel Levy) เจ้าของสโมสร โดยแฟนบอลตะโกนว่า “เราอยากให้เลวี่ออกไป” เนื่องจากมองว่าทีมขาดการลงทุนที่เพียงพอในการเสริมทัพ

ปัญหาการบาดเจ็บของนักเตะหลัก เช่น เจมส์ แมดดิสัน (James Maddison), มิกกี้ ฟาน เดอ เวน (Micky van de Ven) และ ริชาร์ลิซอน (Richarlison) ทำให้ ปอสเตโคกลู ต้องใช้ผู้เล่นสำรองในหลายตำแหน่ง ส่งผลต่อผลงานของทีมโดยตรง

ปอสเตโคกลู ปกป้องนักเตะ ยืนยันพวกเขาทำดีที่สุดแล้ว

แม้ว่าผลงานของทีมจะย่ำแย่ แต่ ปอสเตโคกลู ยืนยันว่าเขายังคงเชื่อมั่นในตัวนักเตะ และขอให้แฟนบอลให้กำลังใจทีมต่อไป

“คุณสามารถตัดสินผมได้ คุณสามารถบอกว่าผมทำงานไม่ดีพอ แต่นักเตะของเราทำเต็มที่แล้ว พวกเขาทุ่มเททุกอย่างที่มี” ปอสเตโคกลูกล่าว

เขายังเสริมว่า การที่ทีมเจอปัญหาการบาดเจ็บอย่างหนักทำให้เป็นเรื่องยากที่จะรักษาผลงานที่ดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เขายังมุ่งมั่นที่จะนำทีมกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะให้ได้

สเปอร์ส เหลือ ยูโรปาลีก เป็นความหวังสุดท้าย

หลังจากตกรอบฟุตบอลถ้วยในประเทศทั้งสองรายการ เป้าหมายเดียวที่เหลือของ สเปอร์ส ในฤดูกาลนี้คือ ยูฟ่า ยูโรปาลีก (Europa League) หาก ปอสเตโคกลู ต้องการรักษาสถิติการคว้าแชมป์ในฤดูกาลที่สองของเขากับสโมสร เขาจะต้องพาทีมทำผลงานให้ดีที่สุดในรายการนี้

แฟนบอล สเปอร์ส คงต้องรอดูว่าทีมจะสามารถกลับมาแข็งแกร่งและจบฤดูกาลด้วยความสำเร็จได้หรือไม่

หากคุณไม่อยากพลาดแมตช์สำคัญ สามารถเช็ก โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร ได้ล่วงหน้าทางแอปพลิเคชันกีฬา แฟนบอลสามารถติดตาม โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร ได้ผ่านช่องกีฬาชั้นนำและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ใกล้จะได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโรปา ลีก (Europa League) แต่ยังมีความไม่แน่นอนว่า อเลฆานโดร การ์นาโช่ (Alejandro Garnacho) และ มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) จะอยู่ช่วยทีมในรอบน็อคเอาท์หรือไม่ หัวหน้าผู้ฝึกสอน รูเบน อโมริม (Ruben Amorim) กล่าวหลังชัยชนะ 2-1 เหนือ เรนเจอร์ส (Rangers) ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ว่าเขา “ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ก่อนตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดในวันที่ 3 กุมภาพันธ์

ความไม่แน่นอนที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด อนาคตของดาวรุ่งและความท้าทายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เวลานี้ ปิศาจแดงนั้น กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่น่าสนใจในฤดูกาลนี้ หลังจากเอาชนะ เรนเจอร์ส ด้วยสกอร์ 2-1 ในศึก ยูโรปา ลีก ทีมปีศาจแดงใกล้บรรลุเป้าหมายการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้กลับถูกบดบังด้วยข่าวลือการย้ายทีมของนักเตะคนสำคัญ อเลฆานโดร การ์นาโช่ (Alejandro Garnacho) ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากแฟนบอล กำลังตกเป็นข่าวย้ายทีม แม้จะได้ลงสนามเป็นตัวจริง 3 จาก 4 เกมล่าสุด และมีโอกาสทำประตูหลายครั้งในเกมล่าสุด แต่เขายังไม่สามารถทำประตูได้นับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) อีกหนึ่งกำลังสำคัญของทีม ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน เขาไม่ได้ลงสนามตั้งแต่เกม ยูโรปา ลีก นัดที่พบกับ วิคตอเรีย พัลเซ่น (Viktoria Plzen) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมนอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับ อันโตนี่ (Antony) ปีกชาวบราซิล ที่อาจย้ายไปร่วมทีม เรอัล เบติส (Real Betis) แบบยืมตัว และ ไทเรล มาลาเซีย (Tyrell Malacia) แบ็คซ้ายชาวดัตช์ ที่กำลังมองหาโอกาสใหม่หลังประสบปัญหาบาดเจ็บ

รูเบน อโมริม (Ruben Amorim) กุนซือคนใหม่ของทีม ยอมรับว่าสถานการณ์ยังไม่แน่นอน 

การขาย การ์นาโช่ อาจช่วยให้ทีมมีงบประมาณในการเสริมทัพนักเตะที่เข้ากับระบบการเล่นของเขา แทนที่จะต้องปรับเปลี่ยนนักเตะที่ถูกซื้อมาโดยผู้จัดการทีมคนก่อนๆ ตั้งแต่สมัย หลุยส์ ฟาน กัล (Louis van Gaal) อโมริม กล่าวว่า “พวกเขาไม่ใช่นักเตะของผู้จัดการคนอื่น ตอนนี้พวกเขาเป็นนักเตะของผม เราต้องเข้าใจสถานการณ์ของสโมสร ก่อนจะทำอะไร เราต้องคิดว่าอะไรที่ทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เราต้องมีความชัดเจนในทุกเรื่อง ผมเข้าใจคำถาม แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นนักเตะของผม และผมมุ่งเน้นไปที่เกมถัดไป ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกว่าตลาดซื้อขายจะปิด อะไรก็เกิดขึ้นได้” ความไม่แน่นอนนี้สะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ วิธี สมัคร sbobet ไม่ผ่านเอเย่นต์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ อโมริม ที่ต้องการสร้างทีมตามวิสัยทัศน์ของเขา ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาดาวรุ่งอย่าง การ์นาโช่ และการจัดการกับความคาดหวังของแฟนบอล ขณะที่ตลาดซื้อขายนักเตะใกล้ปิดลง แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องลุ้นว่าจะได้เห็นดาวรุ่งอย่าง การ์นาโช่ และนักเตะคนสำคัญอย่าง แรชฟอร์ด ในชุดแข่งของทีมต่อไปหรือไม่ วิธี สมัคร sbobet ไม่ผ่านเอเย่นต์ และทิศทางใหม่ภายใต้การคุมทีมของ อโมริม จะพาทีมไปสู่ความสำเร็จได้หรือไม่

มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) กำลังเผชิญกับความยากลำบากในฤดูกาลนี้ หลังจากที่อาร์เซนอล (Arsenal) ประสบปัญหาในเกมสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการตกรอบสามของ เอฟเอ คัพ ด้วยการแพ้จุดโทษต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) และความพ่ายแพ้ต่อ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (Newcastle United) ในรอบรองชนะเลิศของ คาราบาว คัพ

การตัดสินใจในเรื่องการเสริมทีมของอาร์เตต้าถูกวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากทีมยังคงขาดความเฉียบคมในแนวรุก ซึ่งเป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดมาตลอดฤดูกาล

ปัญหาในแนวรุกที่ขาดความเฉียบคม

ปัญหาหลักที่อาร์เซนอลเผชิญคือการไม่มีนักเตะที่สามารถทำประตูได้อย่างเด็ดขาด แม้ทีมจะมีโอกาสเข้าทำในหลายเกม แต่ก็ขาดความสามารถในการเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นให้กลายเป็นประตู

ในเกมที่พ่าย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (Newcastle United) อาร์เซนอลมีโอกาสยิงถึง 23 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียง 3 ครั้ง ขณะที่เกมที่พ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ทีมยิงถึง 26 ครั้ง โดย 22 ครั้งเป็นการยิงในกรอบเขตโทษ แต่ทำได้เพียง 1 ประตู ซึ่งเป็นลูกยิงแฉลบของ กาเบรียล (Gabriel) กองหลังของทีม

ผลกระทบจากการตัดสินใจในตลาดนักเตะ

การที่อาร์เตต้าเลือกเสริมทีมในตำแหน่งอื่น ๆ แทนที่จะมุ่งเน้นหากองหน้าที่มีคุณภาพสูง ส่งผลให้ปัญหาในแนวรุกยังคงอยู่ นอกจากนี้ การขาดกองหน้าที่สามารถจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคมยังทำให้ทีมต้องพึ่งพาผู้เล่นในตำแหน่งอื่น เช่น กองหลังหรือกองกลาง ในการทำประตู

การตัดสินใจเช่นนี้ทำให้อาร์เซนอลประสบความยากลำบากในการแข่งขันทั้งในพรีเมียร์ลีก เอฟเอ คัพ และคาราบาว คัพ ซึ่งส่งผลต่อโอกาสของทีมในการคว้าถ้วยรางวัลในฤดูกาลนี้

แนวทางแก้ไขที่อาร์เซนอลควรพิจารณา

จากสถิติการเข้าทำในเกมสำคัญที่ผ่านมา ชัดเจนว่าอาร์เซนอลจำเป็นต้องเสริมทีมด้วยกองหน้าที่สามารถทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง การเสริมแนวรุกที่มีคุณภาพจะช่วยลดภาระในเกมรุกและเพิ่มโอกาสให้ทีมสามารถคว้าชัยชนะได้ในเกมสำคัญ

มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) และทีมงานควรเร่งดำเนินการแก้ไขจุดอ่อนนี้ในตลาดนักเตะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำประตู และทำให้ทีมกลับมาแข็งแกร่งในทุกการแข่งขัน

สรุป

การที่อาร์เซนอลขาดกองหน้าที่สามารถทำประตูได้อย่างเด็ดขาดเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อฟอร์มของทีมในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตกรอบเอฟเอ คัพ การตามหลังลิเวอร์พูล (Liverpool) ในพรีเมียร์ลีก หรือการต้องลุ้นหนักในคาราบาว คัพ

หากอาร์เซนอลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อนาคตของทีมในฤดูกาลนี้อาจเต็มไปด้วยความลำบาก การแก้ไขจุดอ่อนในแนวรุกจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมกลับมาท้าทายความสำเร็จอีกครั้ง

หากคุณกำลังมองหา ข่าวพรีเมียร์ลีก ที่อัปเดตเร็วและเชื่อถือได้ เรามีข้อมูลทุกคู่ที่คุณต้องการติดตามเว็บไซต์ของเรามีการรวบรวม ข่าวพรีเมียร์ลีก ครบทุกเรื่อง ตั้งแต่ตลาดนักเตะจนถึงผลการแข่งขัน

เบรนดอน รอดเจอร์สเชื่อมั่น นิโคลัส คูห์น ยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไปได้อีก หลังซัดสองประตูให้ เซลติก

ผู้จัดการทีม เซลติก (Celtic) เบรนดอน รอดเจอร์ส (Brendan Rodgers) กล่าวว่า ปีกชาวเยอรมัน นิโคลัส คูห์น (Nicolas Kuhn) ยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้อีก หลังจากที่เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิง 2 ประตู ช่วยให้ทีมเอาชนะ เซนต์ เมียร์เรน (St Mirren) ในศึก สกอตติช พรีเมียร์ชิพ (Scottish Premiership)

คูห์น (Kuhn) ทำประตูได้ทั้งในครึ่งแรกและครึ่งหลัง ส่งผลให้เขามียอดรวมประตูในฤดูกาลนี้ถึง 16 ประตู โดยมีประตูของ ออสตัน ทรัสตี้ (Auston Trusty) ที่โขกเพิ่มอีกหนึ่งลูก ทำให้จ่าฝูงอย่าง เซลติก ทิ้งห่างอันดับสองไปถึง 13 คะแนน

คูห์น วัย 24 ปี ย้ายมาจาก ราปิด เวียนนา (Rapid Vienna) เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว แม้จะเริ่มต้นชีวิตที่ กลาสโกว์ (Glasgow) อย่างยากลำบาก แต่เขาก็สามารถพิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมได้สำเร็จและทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด moneyyellow สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

แชมป์เก่าสามารถกลับมาคืนฟอร์มได้หลังจากพ่ายแพ้ในลีกนัดแรกของฤดูกาลต่อ เรนเจอร์ส (Rangers) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และได้ใช้ประโยชน์จากการที่คู่แข่งพลาดท่าที่ อีสเตอร์ โรด (Easter Road) ทำให้ทิ้งห่างจ่าฝูงมากขึ้น

เซนต์ เมียร์เรน สร้างความลำบากให้กับ เซลติก ในช่วงหนึ่ง ด้วยการกดดันสูงและไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งสร้างโอกาสชัดเจนได้มากนัก แต่แรงต้านทานของพวกเขาก็ถูกทำลายด้วยประตูสุดสวยของเจ้าบ้าน

ลูค แมคโคแวน (Luke McCowan) ส่งบอลยอดเยี่ยมให้ ไดเซน มาเอดะ (Daizen Maeda) หลุดไปทางฝั่งซ้าย และ กองหน้าทีมชาติ ญี่ปุ่น จ่ายให้ คูห์น จบสกอร์อย่างเฉียบขาด ประตูนี้ดูเหมือนจะทำลายขวัญของทีมเยือน และ เซลติก ก็ได้ประตูที่สองก่อนหมดครึ่งแรกจากการโขกของ ทรัสตี้ จากลูกเตะมุมของ อาร์เน เองเกลส์ (Arne Engels)

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ เซลติก มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด moneyyellow สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ