post

ลูกากู โชว์ฟอร์มสุดแจ่ม ในชัยชนะของนาโปลีเหนือฟิออเรนตินา ขณะที่อินเตอร์นำจ่าฝูงเซเรีย อา

โรเมลู ลูกากู (Romelu Lukaku) แสดงฝีเท้าอย่างโดดเด่นในเกมที่ นาโปลี (Napoli) เอาชนะ ฟิออเรนตินา (Fiorentina) ซึ่งทำให้ทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ (Antonio Conte) ยังคงตามหลังจ่าฝูง อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) เพียงหนึ่งแต้มในศึก เซเรีย อา (Serie A) กองหน้าทีมชาติเบลเยียม (Belgium) เปิดสกอร์ในนาทีที่ 26 ด้วยการยิงตามซ้ำจากลูกยิงของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ (Scott McTominay) นาโปลี (Napoli) ยุติสถิติไม่ชนะ 5 นัดติดต่อกันเมื่อ ลูกากู (Lukaku) จ่ายบอลสุดสวยให้กับ จาโคโม ราสปาโดรี (Giacomo Raspadori) ยิงเข้ามุมล่างในนาทีที่ 60 ส่วน อัลเบิร์ต กุดมุนด์สสัน (Albert Gudmundsson) ทำประตูปลอบใจให้กับ ฟิออเรนตินา (Fiorentina) ที่อยู่อันดับ 8 ซึ่งปราชัยในเกมเยือน 3 นัดติดต่อกัน อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) พลิกสถานการณ์จากการตามหลัง 2 ประตู คว้าชัยชนะอย่างระทึกใจด้วยสกอร์ 3-2 เหนือ มอนซ่า (Monza) ที่สนาม ซาน ซีโร่ (San Siro) เมื่อวันเสาร์ มอนซ่า (Monza) ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง ทำสองประตูในช่วง 12 นาทีแรกของครึ่งแรกโดย ซามูเอเล บิรินเดลลี (Samuele Birindelli) และ เคย์ตา บัลเด้ ดิเอา (Keita Balde Diao) เพื่อนำห่าง อย่างไรก็ตาม มาร์โก อาร์เนาโตวิช (Marko Arnautovic) โหม่งเข้าประตูก่อนหมดครึ่งแรกเล็กน้อยและ ฮาคาน ชาลฮาโนกลู (Hakan Calhanoglu) ตีเสมอในนาทีที่ 64 ก่อนที่ จอร์จอส คีเรียโคพูลอส (Giorgos Kyriakopoulos) จะทำเข้าประตูตัวเองส่งผลให้ อินเตอร์ (Inter) คว้าชัยชนะที่ทำให้พวกเขายังคงครองตำแหน่งจ่าฝูง คู่แข่งอย่าง เอซี มิลาน (AC Milan) ก็พลิกกลับมาเอาชนะ เลชเช่ (Lecce) 3-2 หลังจากตามหลัง 2 ประตู นิโคล่า คริสโตวิช (Nikola Krstovic) ยิงสองประตู แต่ อันโตนิโน กัลโล่ (Antonino Gallo) ทำเข้าประตูตัวเองทำให้ มิลาน (Milan) มีความหวัง จากนั้น คริสเตียน พูลิซิช (Christian Pulisic) อดีตกองหน้าของ เชลซี (Chelsea) ยิงสองประตูเพื่อให้ มิลาน (Milan) พลิกกลับมาชนะอย่างยอดเยี่ยม sbobet-onlines อตาลันต้า (Atalanta) ถล่ม ยูเวนตุส (Juventus) 4-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์เพื่อรักษาอันดับ 3 และทิ้งห่างทีมของ ธิอาโก้ มอตต้า (Thiago Motta) ที่อยู่อันดับ 4 ไปถึง 6 แต้ม มาเตโอ เรเตกุย (Mateo Retegui) เปิดสกอร์ในตูริน (Turin) จากจุดโทษในนาทีที่ 26 ก่อนที่ มาร์เตน เดอ รูน (Marten de Roon), ดาวิเด้ ซาปปาคอสต้า (Davide Zappacosta) และ อเดโมล่า ลุคแมน (Ademola Lookman) จะเพิ่มประตูในครึ่งหลังขณะที่ ยูเว่ (Juve) แพ้ในเกมลีกเหย้าด้วยสกอร์ห่าง 4 ประตูเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1967

 

ศึก กัลโช่ เซเรีย อา ยังคงดุเดือด การแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างยักษ์ใหญ่อิตาลี

 

เซเรีย อา (Serie A) ฤดูกาลนี้กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างทีมยักษ์ใหญ่ของ อิตาลี (Italy) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไล่ล่ากันระหว่าง อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) และ นาโปลี (Napoli) ที่กำลังสู้กันอย่างสูสีเพื่อตำแหน่งแชมป์ลีก นาโปลี (Napoli) ภายใต้การนำทัพของกุนซือมากประสบการณ์อย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ (Antonio Conte) ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมล่าสุดที่เอาชนะ ฟิออเรนตินา (Fiorentina) ด้วยฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของ โรเมลู ลูกากู (Romelu Lukaku) ที่ไม่เพียงแค่ทำประตูได้เท่านั้น sbobet-onlines แต่ยังช่วยสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมอย่าง จาโคโม ราสปาโดรี (Giacomo Raspadori) ทำประตูสำคัญเพื่อคว้าชัยชนะ ลูกากู (Lukaku) กลายเป็นกำลังสำคัญของ นาโปลี (Napoli) หลังจากการย้ายมาร่วมทีม เขาได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางร่างกาย วิสัยทัศน์ในการเล่น และความสามารถในการทำประตูที่ยอดเยี่ยม การทำงานร่วมกันระหว่าง ลูกากู (Lukaku) และ แม็คโทมิเนย์ (McTominay) อดีตกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ได้สร้างพลังใหม่ให้กับแนวรุกของ นาโปลี (Napoli) ในขณะเดียวกัน อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) จ่าฝูงของตาราง ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจและความมุ่งมั่นในการพลิกสถานการณ์จากการตามหลัง มอนซ่า (Monza) 0-2 กลับมาชนะ 3-2 ในเกมที่ ซาน ซีโร่ (San Siro) เกมนี้แสดงให้เห็นถึงความลึกของขุมกำลังและคุณภาพของทีมที่สามารถเอาชนะสถานการณ์ยากลำบากได้ การที่ มาร์โก อาร์เนาโตวิช (Marko Arnautovic) ทำประตูสำคัญก่อนหมดครึ่งแรก เป็นการจุดประกายความหวังให้กับทีม และด้วยการทำประตูตีเสมอของ ฮาคาน ชาลฮาโนกลู (Hakan Calhanoglu) มิดฟิลด์ทีมชาติตุรกี (Turkey) ทำให้ อินเตอร์ (Inter) กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะได้รับโชคดีจากประตูทำเข้าประตูตัวเองของ คีเรียโคพูลอส (Kyriakopoulos) ซึ่งนำมาสู่ชัยชนะสำคัญที่ทำให้พวกเขายังคงนำจ่าฝูงต่อไป เอซี มิลาน (AC Milan) อีกหนึ่งทีมใหญ่จาก เมืองมิลาน (Milan) ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความไม่ยอมแพ้เช่นกัน ในเกมที่พวกเขาพลิกกลับมาเอาชนะ เลชเช่ (Lecce) 3-2 หลังจากตามหลัง 2 ประตูจากการทำประตูของ นิโคล่า คริสโตวิช (Nikola Krstovic) แต่ด้วยความผิดพลาดของ อันโตนิโน กัลโล่ (Antonino Gallo) ที่ทำเข้าประตูตัวเอง และฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ คริสเตียน พูลิซิช (Christian Pulisic) ที่ซัดสองประตู ทำให้ มิลาน (Milan) พลิกกลับมาคว้าชัยชนะได้สำเร็จ พูลิซิช (Pulisic) อดีตแนวรุกของ เชลซี (Chelsea) ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเขาอีกครั้งในเกมนี้ ความเร็ว ทักษะ และความสามารถในการจบสกอร์ของเขาเป็นสิ่งที่ มิลาน (Milan) ต้องการในการลุ้นตำแหน่งท็อปโฟร์ของตาราง

 

ในขณะเดียวกัน อตาลันต้า (Atalanta) ได้สร้างความประหลาดใจให้กับวงการฟุตบอลอิตาลีด้วยการถล่ม ยูเวนตุส (Juventus) 4-0 ในถิ่นของทีมไอ้ม้าลาย 

 

นี่ถือเป็นการพ่ายแพ้ในบ้านด้วยสกอร์ห่างถึง 4 ประตูครั้งแรกของ ยูเว่ (Juve) ในรอบกว่า 57 ปี

มาเตโอ เรเตกุย (Mateo Retegui) ดาวยิงชาวอิตาเลียน-อาร์เจนตินา (Italian-Argentinian) เปิดฉากการถล่มด้วยการยิงจุดโทษ ตามด้วยประตูจาก มาร์เตน เดอ รูน (Marten de Roon), ดาวิเด้ ซาปปาคอสต้า (Davide Zappacosta) และ อเดโมล่า ลุคแมน (Ademola Lookman) ที่เพิ่มความปวดหัวให้กับทีมของ ธิอาโก้ มอตต้า (Thiago Motta) ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ อตาลันต้า (Atalanta) แต่ยังตอกย้ำถึงความไม่แน่นอนในฟอร์มการเล่นของ ยูเวนตุส (Juventus) ภายใต้การคุมทีมของ มอตต้า (Motta) อีกด้วย การที่ ยูเว่ (Juve) ตามหลัง อตาลันต้า (Atalanta) ถึง 6 แต้มในตอนนี้ ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงที่จะหลุดจากการแข่งขันเพื่อตำแหน่งท็อปทรีของตาราง สถานการณ์ของตารางคะแนน เซเรีย อา (Serie A) ในขณะนี้ยังคงเข้มข้น อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) ยังคงนำจ่าฝูงด้วยผลงานที่แข็งแกร่ง แต่ นาโปลี (Napoli) ก็ยังคงไล่ตามห่างเพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น อตาลันต้า (Atalanta) รั้งอันดับ 3 ห่างจาก ยูเวนตุส (Juventus) อันดับ 4 ถึง 6 แต้ม ส่วน เอซี มิลาน (AC Milan) ก็ยังคงมีลุ้นในการแข่งขันเพื่อพื้นที่ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (UEFA Champions League) ในขณะที่ฤดูกาลดำเนินไป ทุกเกมจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นสำหรับทีมที่กำลังต่อสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์และพื้นที่ในการแข่งขันระดับยุโรป แฟนบอลชาวอิตาลี (Italy) และทั่วโลกจับตามองการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นนี้อย่างใกล้ชิด รอดูว่าทีมใดจะมีความแข็งแกร่งและความสม่ำเสมอมากพอที่จะคว้าตำแหน่งแชมป์ เซเรีย อา (Serie A) ในฤดูกาลนี้ไปครอง

post

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบเอฟเอ คัพ หลังแพ้ ฟูแล่ม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบเอฟเอ คัพ หลังแพ้ ฟูแล่ม ในการดวลจุดโทษ เป้าหมายต่อไปคือยูโรปา ลีก

 

“ปีศาจแดง” สามารถตีเสมอในช่วงครึ่งหลัง แต่ไม่สามารถคว้าชัยจากการยิงจุดโทษได้

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก (Europa League) หลังจากตกรอบเอฟเอ คัพ (FA Cup) ด้วยการพ่าย ฟูแล่ม (Fulham) ในการดวลจุดโทษ โจชัว เซิร์กซี และ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ เป็นสองคนที่ยิงพลาด โดยถูก แบรนด์ เลโน เซฟเอาไว้ ส่งผลให้ ฟูแล่ม เขี่ย ยูไนเต็ด ตกรอบเอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 117 ปี ทีมของ มาร์โก ซิลวา ที่มักจะไม่ค่อยมีโชคในการเจอกับ ยูไนเต็ด ครั้งนี้สามารถคว้าชัยได้ โดยพวกเขายิงจุดโทษได้อย่างแม่นยำทุกคน 560bet

 

ตรงกันข้ามกับทีมของ รูเบน อาโมริม ที่ตอนนี้ต้องทุ่มสุดตัวกับยูโรปา ลีก หากหวังจะได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า หากพวกเขาพลาดแชมป์ นี่จะเป็นฤดูกาลที่สองในรอบสิบปีที่ ยูไนเต็ด จะไม่มีเกมยุโรปให้ลงเล่นในช่วงกลางสัปดาห์ โดยเกมถัดไปพวกเขาจะต้องบุกไปเยือน เรอัล โซเซียดาด ในคืนวันพฤหัสบดี

 

ยูไนเต็ด เริ่มเกมได้อย่างยากลำบาก ฟูแล่ม สามารถกดดันพวกเขาได้ดี และแม้ว่ายูไนเต็ดจะไม่ได้เสียโอกาสมากนักในครึ่งแรก แต่ก็โดนลงโทษจากจุดอ่อนเดิมๆ เมื่อ โรดริโก้ มูนิซ โหม่งเช็ดลูกเตะมุมไปให้ คาลวิน บาสซีย์ ที่ยืนโล่งๆ ได้โหม่งจ่อๆ เข้าไปเป็นประตู

 

ยูไนเต็ด ใช้เวลาพอสมควรในการเรียกจังหวะเกมรุกกลับมา แต่เมื่อ อเลฆานโดร การ์นาโช่ ถูกส่งลงมา เขาก็สร้างอิมแพ็คได้ทันที ดึงกองหลังฟูแล่มสองคนออกจากตำแหน่ง เปิดทางให้ ดิโอโก้ ดาโลต์ เติมขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะเปิดบอลเรียดไปให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส ยิงด้วยซ้ายผ่านมือ เลโน ตีเสมอเป็น 1-1 560bet

 

หลังจากนั้น ยูไนเต็ด มีโอกาสที่ดีกว่าในการทำประตูเพิ่ม ไชโด โอบี แข้งวัย 17 ปี ได้จังหวะสับไก แต่ เลโน ใช้มือซ้ายปัดออกไปได้ ขณะที่ การ์นาโช่ ยังคงป่วนแนวรับฟูแล่มต่อเนื่อง และบังคับให้ เลโน ต้องเซฟถึงสองครั้ง

 

แต่สุดท้าย ฟูแล่ม ยังคงยืนหยัดได้จนถึงช่วงดวลจุดโทษ หลังจากที่ทั้งสองทีมยิงกันมาอย่างสมบูรณ์แบบ ลินเดเลิฟ ยิงไปตรงกลางประตูเกินไป ทำให้ เลโน ป้องกันไว้ได้ง่ายๆ จากนั้น อันโตนี โรบินสัน แข้งทีมชาติสหรัฐฯ ยิงเข้าไปอย่างเยือกเย็น ทำให้ เซิร์กซี ต้องยิงให้ได้เพื่อรักษาโอกาสของ ยูไนเต็ด แต่ครั้งนี้เขายิงไปตรงทางที่ เลโน เดาทางถูก และกลายเป็นคนพาทีมตกรอบ 560bet

 

ฟูแล่ม ได้รางวัลเป็นการผ่านเข้ารอบไปเจอกับ คริสตัล พาเลซ โดยในบรรดาทีมที่เหลืออยู่ มีเพียง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้นที่มาจาก “บิ๊กซิกซ์” ของพรีเมียร์ลีก ซึ่งทำให้พวกเขามีสิทธิ์ฝันถึงแชมป์รายการใหญ่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ขณะที่ ยูไนเต็ด ตอนนี้เหลือแค่การแข่งขันเพียงรายการเดียวให้ลุ้นในช่วงสามเดือนสุดท้ายของฤดูกาล