post

อดีตกองหลังเรอัล มาดริดและแมนฯ ยูไนเต็ด วาราน ประกาศเลิกเล่นในวัย 31 ปี

อดีตกองหลังเรอัล มาดริดและแมนฯ ยูไนเต็ด วาราน ประกาศเลิกเล่นในวัย 31 ปี

อดีตกองหลังทีม เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ราฟาเอล วาราน (Raphael Varane) ได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการในวัยเพียง 31 ปี สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลทั่วโลก

วาราน (Varane) เพิ่งย้ายมาร่วมทีม โคโม่ ในลีกอิตาลี แบบไม่มีค่าตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่โชคร้ายที่เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าในนัดเปิดตัวกับทีม ซามพ์โดเรีย เมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้ต้องพักยาวและส่งผลต่อการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้

แม้จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพแล้ว แต่วาราน (Varane) ยืนยันว่าจะยังคงอยู่กับทีม โคโม่ ต่อไปในบทบาทที่ไม่ใช่นักเตะ โดยเขาได้โพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมว่า “ผมตั้งมาตรฐานให้ตัวเองไว้สูงมาก ผมอยากจบอาชีพแบบแข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่พยายามจะเกาะติดเกมไว้ มันต้องใช้ความกล้าอย่างมากที่จะฟังเสียงของหัวใจและสัญชาตญาณของตัวเอง”

วาราน (Varane) เริ่มต้นอาชีพกับทีม ล็องส์ ในลีกฝรั่งเศส และใช้เวลาเพียงหนึ่งฤดูกาลในทีมชุดใหญ่ก่อนย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2011 ที่นั่นเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงามตลอด 10 ปี คว้าแชมป์ไปถึง 18 รายการ รวมถึงแชมป์ ลา ลีกา 3 สมัย และ แชมเปียนส์ ลีก 4 สมัย

หลังจากประสบความสำเร็จในสเปน วาราน (Varane) ตัดสินใจย้ายมาท้าทายตัวเองในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 34 ล้านปอนด์ เขาลงเล่นให้ทีมปีศาจแดงไป 95 นัด แม้จะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง

ในช่วงเวลากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วาราน (Varane) คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ในปี 2022 และนัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นให้ทีมคือในเกมชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะคู่ปรับอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเวมบลีย์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด meechockdee สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

จานนี่ อินฟานติโน่ (Gianni Infantino) ประธานฟีฟ่า ได้อวยพรให้วาราน (Varane) “โชคดีสำหรับอนาคต” และกล่าวเสริมว่า “เขาเป็นตำนานของเกมอันสวยงามนี้ และเป็นเสียงสำคัญในการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติระดับโลกของฟีฟ่า”

คริสเตียโน โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo) อดีตเพื่อนร่วมทีมทั้งที่ เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้แสดงความยินดีกับวาราน (Varane) ผ่านอินสตาแกรมว่า “อาชีพที่ยิ่งใหญ่และตำนานของวงการฟุตบอล! ขอแสดงความยินดีสำหรับทุกสิ่งนะพี่ชาย หวังว่าจะได้เจอกันเร็วๆ นี้”

นอกจากความสำเร็จในระดับสโมสรแล้ว วาราน (Varane) ยังประสบความสำเร็จกับทีมชาติฝรั่งเศสอย่างมาก เขาเปิดตัวกับทีมชาติในปี 2013 และลงเล่นไปทั้งสิ้น 93 นัด คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2018 แชมป์ เนชันส์ ลีก ในปี 2021 และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกอีกครั้งในปี 2022

วาราน (Varane) กล่าวถึงการตัดสินใจเลิกเล่นของเขาว่า “ผมล้มลุกคลุกคลานมานับพันครั้ง และครั้งนี้ถึงเวลาที่ต้องหยุดและแขวนสตั๊ดแล้ว โดยเกมสุดท้ายของผมจบลงด้วยการคว้าแชมป์ที่เวมบลีย์ ผมไม่มีอะไรต้องเสียใจ ผมไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ผมประสบความสำเร็จมากกว่าที่เคยฝันไว้ด้วยซ้ำ แต่นอกเหนือจากรางวัลและถ้วยแชมป์แล้ว ผมภูมิใจที่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็ยึดมั่นในหลักการของการเป็นคนจริงใจ และพยายามทำให้ทุกที่ที่ผมไปดีขึ้นกว่าตอนที่ผมเข้าไป ผมหวังว่าผมได้ทำให้พวกคุณทุกคนภูมิใจ”

สำหรับแผนในอนาคต วาราน (Varane) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ชีวิตใหม่นอกสนามกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ผมจะยังคงอยู่กับ โคโม่ เพียงแต่ไม่ได้ใช้รองเท้าสตั๊ดและสนับแข้งแล้ว เป็นเรื่องที่ผมตั้งตารอที่จะได้แบ่งปันรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้”

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา วาราน (Varane) เคยออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการโหม่งลูกฟุตบอล โดยกล่าวว่าเขาได้ “ทำร้ายร่างกายตัวเอง” และครั้งหนึ่งเคยเล่นจบเกมฟุตบอลโลกของทีมชาติฝรั่งเศสในปี 2014 แบบ “อัตโนมัติ” หลังจากเล่นต่อทั้งที่มีอาการกระทบกระเทือนทางสมอง เขาจึงเรียกร้องให้มีการป้องกันที่ดีขึ้นและการตระหนักรู้ที่มากขึ้นเกี่ยวกับปัญหานี้ในวงการฟุตบอล

การประกาศเลิกเล่นของวาราน (Varane) ในวัยเพียง 31 ปี ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการฟุตบอล แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญเพื่อสุขภาพในระยะยาวของเขา แฟนบอลทั่วโลกต่างร่วมอวยพรและขอบคุณสำหรับช่วงเวลาอันยอดเยี่ยมที่เขามอบให้กับวงการฟุตบอล

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ วาราน (Varane) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด meechockdee สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

post

ในที่สุดก็ได้ทีมเล่นแล้ว อองโตนี่ มาร์กซิยาล ตกลงซบ เออีเค เอเธนส์ เผยค่าเหนื่อยแพงสุดประวัติศาสตร์ สโมสร

อองโตนี่ มาร์กซิยาล (Anthony Martial) อดีตดาวเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United) ได้ทีมลงเสียทีหลังว่างงานมาอย่างเนิ่นนานโดยเป็นทาง เออีเค เอเธนส์ (AEK Athens) ทีมดังเมืองเทพนิยาย กรซ คว้าตัวไปร่วมทีมได้สำเร็จ ซึ่งมีการเปิดเผยตัวเลขค่าเหนื่อยออกมาถือเป็นค่าเหนื่อยที่แพง ระดับเป็นประวัติศาสตร์สโมสรเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้าที่จะตกลงปลงใจกับ เออีเค เอเธนส์ (AEK Athens) ทางด้าน อองโตนี่ มาร์กซิยาล (Anthony Martial) ก็ได้รับความสนใจจากสโมสรชั้นนำทั่วยุโรปเลยทีเดียว อตาลันต้า (Atalanta BC)  ก็มีเคยให้ความสนใจ หรือจะเป็นทีมดังจากลีก บราซิล อย่างฟลาเมงโก้ (Flamengo) เองก็ตกเป็นข่าวกับเขาด้วยเช่นกัน แต่สุดท้าย น้องหมากก็เลือกที่จะไป เออีเค เอเธนส์ ในที่สุด

 

รายงานระบุว่า มาร์ซิยาล จะได้รับค่าเหนื่อนถึง 2.5 ล้านปอนด์ ต่อหนึ่งฤดูกาล กับทาง เออีเค เอเธนส์ ซึ่งตอนนี้ก็มีประกาศไปชัดเจนแล้ว

 

สำหรับค่าเหนื่อยของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล (Anthony Martial) ที่ได้รับกับทาง เออีเค เอเธนส์ (AEK Athens) นั้นก็ได้มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าอยู่ที่ 2.5 ล้านปอนด์ ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องขอโบนัสต่างๆอีก รวมๆแล้วมีมู่ลค่าราวๆ 7.5 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติของสโมสรอีกด้วย กลายเป็นนักเตะที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของสโมส เออีเค เอเธนส์ (AEK Athens) ไปเลย และแน่นอนว่าเรตค่าเหนื่อยนี้กับระยะเวลาตลอดสามปีก็คือเป็นสิ่งที่ทาง อองโตนี่ มาร์ซิยาล นั้นต้องการเองด้วย อ้างอิงจากก่อนหน้านี้นั้น ทาง ฟลาเมงโก้ (Flamengo) ทีมดังจากบราซิล ต้องการที่จะเซ็นสัญญากับเขาเช่นกันแต่ก็ล้มเหลวไปเพราะไม่สามารถให้ได้ตามที่ตัวของ อองโตนี่ มาร์ซิยาล (Anthony Martial) ต้องการ เนื่องจากตัวนักเตะนั้นต้องการระยะเวลาสัญญา 3 ปี ขึ้นไปนั่นเองสำหรับ อองโตนี่ มาร์ซิยาล (Anthony Martial) นั้นหมดสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งเขาก็หาที่ลงไม่ได้มานานแม้ว่าจะมีความสนใจจากหลายสโมสรเข้ามาก็ตามแต่ก็ยังคงติดขัดเงื่อนไขต่างๆ อยู โดยทาง อองโตนี่ มาร์ซิยาล (Anthony Martial) นั้นไม่ค่อยได้รับโอกาสหลังจากการมาคุมทีมปิศาจแดง ของ เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ซึ่งก็ถือเป็นกุนซือดวงแข็งคนนึง ที่พอผลงานไม่ค่อยดี จนเกือบจะถึงฆาต แต่ก็สามารถเอาตัวรอดได้ตลอด สำหรับท่านใดที่ต้องการรู้ วิธีแทงบอลออนไลน์ ลองค้นหาที่หน้าเว็บไซต์ดูได้เลย ปัจจุบันมี วิธีแทงบอลออนไลน์ ให้ได้เรียนรู้อย่างง่ายดาย ตอนนี้ ก็ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ที่ทาง อองโตนี่ มาร์กซิยาล (Anthony Martial) จะได้ลองทำมันอีกครั้งหลังประสบความล้มเหลวกับการมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ ทราฟฟอร์ด

 

นอกจาก มาร์ซิยาล จะได้ทีมใหม่แล้ว ทาง อาเดรียง ราบิโอต์ (Adrien Rabiot) ก็เป็นอีกคนที่ได้ที่ลงซักทีหลังจากเคว้งคว้างอยู่ในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้มาพักใหญ่

 

นักเตะฟรีเอเย่นต์ ในตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านค่อนข้างน่าสนใจอยู่หลายราย อีกหนึ่งรายที่เพิ่งจะได้ที่ลงก็คือ อาเดรียง ราบิโอต์ (Adrien Rabiot) ที่ก่อนหน้านี้นั้น เลือกมาก ต้องการค่าเหนื่อยที่แพงระยับ สุดท้าย หาคนจ้างงานไม่ได้ จนในที่สุดก็ได้กลับไปใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศสบ้านเกิดเสียที หลังตกลงปลงใจย้ายไปร่วมทีม โอลิมปิค มาร์เซย (Olympique de Marseille) ที่มีกุนซือมากฝีมืออย่าง โรแบร์โต้ เดอ แชร์บี้ (Roberto De Zerbi) คุมทัพอยู่แถมตอนนี้ฟอร์มของทีมในลีกเอิง ยังปังปุริเย่ ไล่บี้หัวตาราง มีโอกาสขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ได้เลยในฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวจะสวมหมายเลข 25 ลงเล่นให้ทีมดังจากฝรั่งเศส ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสจะเซ็นต์สัญญา 2 ปี และพร้อมที่จะลงบู๊ในลีกเอิงเรียบร้อยแล้ว

post

โคลแมน ถอนตัวจากทีมสาธารณรัฐ ไอร์แลนด์ ในเกมสำคัญกับ กรีซ

โคลแมน (Seamus Coleman) ถอนตัวจากทีมสาธารณรัฐ ไอร์แลนด์ ในเกมสำคัญกับ กรีซ

ในความพัฒนาล่าสุดที่สร้างความกังวลให้กับแฟนบอลชาว ไอริช ซีมัส โคลแมน (Seamus Coleman) กัปตันทีมสาธารณรัฐ ไอร์แลนด์ วัย 35 ปี ได้ถูกตัดสินให้พลาดเกม เนชันส์ ลีก ที่สำคัญกับ กรีซ ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับในเกมล่าสุด การถอนตัวของ โคลแมน (Coleman) เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับทีมชาติ ไอร์แลนด์ ซึ่งกำลังมองหาการฟื้นตัวหลังจากพ่ายแพ้ให้กับ อังกฤษ ในบ้านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

โคลแมน (Coleman) ซึ่งเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์และเป็นแกนหลักของทีมชาติ ไอร์แลนด์ มาอย่างยาวนาน ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังของเกมกับ อังกฤษ หลังจากปะทะกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (Harry Maguire) กองหลังของ อังกฤษ ในจังหวะแย่งบอลกลางอากาศ เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ โคลแมน (Coleman) ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย ซึ่งรุนแรงพอที่จะทำให้เขาต้องถอนตัวจากทีมชาติและเดินทางกลับไปยังสโมสร เอฟเวอร์ตัน เพื่อรับการรักษาและประเมินอาการอย่างละเอียด 

เพื่อทดแทนการขาดหายไปของ โคลแมน (Coleman) ทางสมาคมฟุตบอลแห่ง ไอร์แลนด์ (FAI) ได้เรียกตัว เฟสตี้ เอโบเซเล่ (Festy Ebosele) เข้ามาเสริมทีม เอโบเซเล่ (Ebosele) วัย 21 ปี เป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่กำลังสร้างชื่อให้กับตัวเองในวงการฟุตบอล ปัจจุบันเขาสังกัดสโมสร อูดิเนเซ่ ใน อิตาลี แต่กำลังถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ วัตฟอร์ด ในแชมเปี้ยนชิพ ของ อังกฤษ แม้จะมีประสบการณ์กับทีมชาติเพียง 3 นัด แต่ เอโบเซเล่ (Ebosele) ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับโค้ช ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมส์สัน (Heimir Hallgrimsson)

การถอนตัวของ โคลแมน (Coleman) สร้างความท้าทายทางยุทธวิธีให้กับ ฮัลล์กริมส์สัน (Hallgrimsson) ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งโค้ชทีมชาติ ไอร์แลนด์ ได้ไม่นาน ในเกมกับ อังกฤษ โคลแมน (Coleman) ได้รับมอบหมายให้เล่นในตำแหน่งแบ็คขวาของระบบ 3 กองหลัง การขาดหายไปของเขาอาจทำให้ ฮัลล์กริมส์สัน (Hallgrimsson) ต้องปรับแผนการเล่น โดยมีความเป็นไปได้ว่า แมตต์ โดเฮอร์ตี้ (Matt Doherty) อาจถูกดึงลงมาจากตำแหน่งวิงแบ็คมาเล่นในแนวรับแทน โคลแมน (Coleman)

เกมกับ กรีซ ที่กำลังจะมาถึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทีมชาติ ไอร์แลนด์ หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ อังกฤษ 2-0 ในเกมแรกภายใต้การคุมทีมของ ฮัลล์กริมส์สัน (Hallgrimsson) ทีม ไอริช กำลังมองหาการฟื้นฟูความมั่นใจและผลงาน อย่างไรก็ตาม กรีซ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่าย เนื่องจากพวกเขาเคยเอาชนะ ไอร์แลนด์ มาแล้วทั้งในบ้านและนอกบ้านในช่วงแคมเปญคัดเลือก ยูโร 2024

ความท้าทายสำหรับทีมชาติ ไอร์แลนด์ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การขาดหายไปของ โคลแมน (Coleman) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้นจากผลงานที่ไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา แฟนบอลชาว ไอริช กำลังรอคอยการแสดงผลงานที่น่าประทับใจและชัยชนะที่จะช่วยฟื้นฟูความหวังสำหรับอนาคตของทีม

ในขณะเดียวกัน โคลแมน (Coleman) จะต้องเร่งฟื้นฟูร่างกายเพื่อกลับมาช่วยทีมชาติในเกมสำคัญๆ ที่จะตามมา รวมถึงการกลับไปช่วยสโมสร เอฟเวอร์ตัน ใน พรีเมียร์ลีก การบาดเจ็บครั้งนี้อาจเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจของกัปตันทีมที่มีประสบการณ์รายนี้ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด แทงบอลสเต็ป สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

สำหรับ เอโบเซเล่ (Ebosele) นี่อาจเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการแสดงศักยภาพและสร้างชื่อให้กับตัวเองในระดับทีมชาติ การได้รับเลือกให้เข้ามาแทนที่ผู้เล่นระดับตำนานอย่าง โคลแมน (Coleman) ถือเป็นความไว้วางใจอย่างสูงจากทีมงานโค้ช และเขาจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคู่ควรกับโอกาสนี้

ในท้ายที่สุด เกมกับ กรีซ จะเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับทีมชาติ ไอร์แลนด์ ภายใต้การนำของ ฮัลล์กริมส์สัน (Hallgrimsson) ไม่เพียงแต่พวกเขาจะต้องปรับตัวกับการขาดหายไปของผู้เล่นคนสำคัญ แต่ยังต้องแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและการพัฒนาในเกมนี้ด้วย ผลการแข่งขันอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อขวัญกำลังใจของทีมและความเชื่อมั่นของแฟนบอลในอนาคตอันใกล้

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ ซีมัส โคลแมน (Seamus Coleman) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด แทงบอลสเต็ป สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

post

เอริค เทน ฮาก กับความกดดันที่เพิ่มขึ้น 7 เกมใน 22 วันหลังพักเบรกทีมชาติจะเป็นตัวชี้วัดอนาคต

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) พ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล (Liverpool) 0-3 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford) ส่งผลให้พวกเขาร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 14 ในตาราง พรีเมียร์ลีก (Premier League) โดยมีเพียง 3 คะแนนจาก 3 นัดแรกของฤดูกาล ความกดดันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างหนักสำหรับกุนซือชาวดัตช์ หลังจากที่เขาพาทีมจบอันดับ 8 ในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งถือเป็นอันดับต่ำสุดของสโมสรในยุคพรีเมียร์ลีก

อะไรรออยู่ข้างหน้าสำหรับปีศาจแดง?

หลังจากพักเบรกทีมชาติ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงสนาม 7 นัดในเวลาเพียง 22 วัน ระหว่างช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนกันยายนและตุลาคม โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. เกมเยือนเซาแธมป์ตัน (Southampton) ทีมน้องใหม่ในวันที่ 14 กันยายน
2. เปิดบ้านพบบาร์นสลีย์ (Barnsley) ในศึกคาราบาวคัพ (Carabao Cup) รอบ 3 วันที่ 17 กันยายน
3. เยือนคริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 21 กันยายน
4. เปิดบ้านพบทเวนเต้ (Twente) ในยูโรปา ลีก (Europa League) นัดแรก วันที่ 25 กันยายน
5. เปิดบ้านรับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 29 กันยายน
6. บุกเยือนปอร์โต้ (Porto) ในยูโรปา ลีก วันที่ 3 ตุลาคม
7. เยือนแอสตัน วิลล่า (Aston Villa) ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 6 ตุลาคม

ในช่วงเวลาที่ความกดดันถาโถมเข้าหา เอริค เทน ฮาก การติดตามผลบอลแบบเรียลไทม์จาก sbobet live จึงกลายเป็นสิ่งที่แฟนบอลหลายคนให้ความสำคัญ เพื่อดูว่าทีมจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้หรือไม่ โปรแกรมที่ยากลำบากเช่นนี้ทำให้การเช็ก sbobet live ผลการแข่งขันกลายเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกแต้มมีความสำคัญในการฟื้นฟูความมั่นใจของทีม

ความท้าทายที่รออยู่

โปรแกรมที่ยาก

เมื่อเทียบกับผลงานฤดูกาลที่แล้ว โปรแกรมชุดนี้ถือว่าค่อนข้างยากสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมเยือน คริสตัล พาเลซ ที่แพ้ไปถึง 0-4 ในฤดูกาลที่แล้ว และเกมเหย้าพบ ท็อตแน่ม ที่เสมอ 2-2 ในเดือนมกราคม เอริค เทน ฮาก จำเป็นต้องพาทีมทำผลงานให้ดีกว่าเดิมเพื่อบรรเทาความกดดันที่กำลังเพิ่มขึ้น

ถ้วยรายการรองไม่อาจช่วยได้มากนัก

แม้ว่า เอริค เทน ฮาก จะพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ (FA Cup) และ คาราบาวคัพ ในฤดูกาลที่แล้ว แต่ความสำเร็จในถ้วยรายการรองอาจไม่เพียงพอที่จะรักษาตำแหน่งของเขาไว้ได้ หากผลงานในลีกยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวลือว่าทางสโมสรได้มีการพูดคุยกับผู้จัดการทีมคนอื่นๆ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

สิ่งที่เอริค เทน ฮากต้องทำ

ปรับระบบการเล่นให้แน่นหนา

ปัญหาสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการเสียประตูจากการโดนโต้กลับเร็ว โดยเฉพาะในเกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 ทั้ง 3 ประตูเกิดจากการเสียบอลในแดนตัวเอง เอริค เทน ฮาก จำเป็นต้องปรับระบบการเล่นให้แน่นหนาขึ้น โดยเฉพาะในแดนกลาง

เร่งปรับตัวนักเตะใหม่

มานูเอล อูการ์เต้ (Manuel Ugarte) มิดฟิลด์ตัวใหม่ของทีมจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับ พรีเมียร์ลีก โดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาในแดนกลางที่กำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ คาเซมิโร่ (Casemiro) โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังในเกมล่าสุด

แก้ปัญหาเรื่องการจบสกอร์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำประตูได้เพียง 2 ลูกจาก 3 เกมแรกในลีก ทั้งที่สร้างโอกาสได้มากพอสมควร พวกเขาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการจบสกอร์โดยด่วน โดยหวังว่า ราสมุส โฮยลุนด์ (Rasmus Hojlund) กองหน้าคนใหม่จะกลับมาจากอาการบาดเจ็บและช่วยทีมในเรื่องนี้ได้

บทสรุป

7 เกมใน 22 วันหลังพักเบรกทีมชาติจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะชี้วัดอนาคตของ เอริค เทน ฮาก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาจำเป็นต้องพาทีมกลับมาทำผลงานที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพรีเมียร์ลีก มิฉะนั้นแล้วความกดดันที่มีอยู่อาจเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่ยากจะแก้ไขได้ทันก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติในเดือนตุลาคม ใน 7 เกมที่รออยู่ข้างหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในลีกและ ยูโรปา ลีก โดยแฟนบอลสามารถติดตามผลผ่าน sbobet live เพื่อรับข้อมูลแบบทันทีทันใด ขณะที่เอริค เทน ฮากพยายามปรับระบบการเล่นและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาล