อัศวินสีส้ม แซงหน้า ตราไก่ คว้าแชมป์กลุ่มเข้าสู่สู่รอบรองชนะเลิศ


ฟุตบอลศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2018-2019 เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายในลีก A กลุ่ม 1 ระหว่าง เยอรมัน เปิดสนามเฟลตินส์ อารีนา ในเมืองเกลเซนเคียร์เชน ต้อนรับการมาเยือนของ เนเธอร์แลนด์
ซึ่งเกมส์นี้ทีมเยือนต้องการเพียงแต้มเดียวจากเกมส์นัดนี้เท่านั้นก็จะเข้ารอบต่อไป

โยอาคิม เลิฟ กุนซือเจ้าถิ่นซึ่งยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยในรายการนี้ จนต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีก B แน่นอนแล้ว เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-4-3 โดยใช้แนวรุกเป็นสามประสานดาวรุ่งอย่าง
แซร์ช กนาบรี้, ติโม แวร์เนอร์ และ เลรอย ซาเน

ด้านผู้มาเยือนของ โรนัลด์ คูมัน ขอเพียงแค่ไม่แพ้ก็จะคว้าแชมป์กลุ่ม 1 พร้อมตีตั๋วเข้ารอบรองชนะเลิศทันที วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ด้วยการใช้ เมมฟิส เดปาย ค้ำหน้าเป้าคอยทำเกมรุกร่วมกับ
ควินซี โพรเมส, จอร์จินโญ ไวจ์นัลดุม และ ไรอัน บาเบิล ออกสตาร์ทเกมมาเพียงแค่ 9 นาทีเท่านั้น เป็นฝั่งของเยอรมันที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ กนาบรี้ ดีดบอลเร็วให้
แวร์เนอร์ ใช้ศีรษะแต่งลูกก่อนจะหวดด้วยขวาตุงตาข่าย ส่งให้อินทรีเหล็กออกนำ 1-0

ถัดมานาทีที่ 19 อดีตแชมป์โลก 4 สมัยก็จัดการบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ โทนี โครส วางบอลยาวตั้งแต่กลางสนามไปให้ ซาเน แต่งหาเหลี่ยมหนีแนวรับทีมเยือนก่อนจะซัดด้วยซ้ายข้างถนัด
ไปแฉลบขาของ เคนนี เตเต้ แบ็คขวาอัศวินสีส้มเข้าไป ช่วยให้เจ้าบ้านหนี่ห่างเป็น 2-0 ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้ครึ่งหลังขุนพลออรันเยพยายามเร่งเกมบุกมากขึ้น เพื่อหวังตามตีไข่แตกให้ได้
จนมาทำสำเร็จในนาทีที่ 85 จากจังหวะที่ มาร์เทน เดอ รูน ไหลบอลให้ โพรเมส จับด้วยขวาแล้วซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษอย่างเด็ดขาด

ทำให้เนธอร์แลนด์ไล่มาเป็น 1-2 โดยเกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าย้านอยู่แล้ว ทว่าในนาทีที่ 90 ทีมเยือนกลับมาตามตีเสมอได้แบบเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ ทอนนี วิลเฮนา
ตัวสำรองที่ลงมาแทน ไวจ์นัลดุม ตั้งแต่นาทีที่ 60 เปิดบอลด้วยซ้ายทางกราบขวาเข้าเขตโทษไปโดน โยชัว คิมมิช โหม่งสกัดไม่ดีกลายเป็นมาชงให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ วอลเลย์ตามน้ำด้วยขวาตุงตาข่าย
ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอ 2-2

ผลเสมอในเกมนี้ ทำให้บทสรุปของลีก A กลุ่ม 1 กลายเป็นเนเธอร์แลนด์ที่คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง แม้ว่าจะมี 7 คะแนนเท่ากับอันดับ 2 อย่างฝรั่งเศส แต่อัศวินสีส้มมีเฮดทูเฮดดีกว่า ทำให้ได้ผ่านเข้าไปเล่น
ในรอบรองชนะเลิศที่จะแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายนปีหน้า ส่วนเยอรมันจบอันดับ 3 สุดท้ายของกลุ่ม 1 ด้วยการมีแค่ 2 คะแนน และไม่ชนะทีมใดเลย สรุป 4 ทีมจากลีก A ที่ผ่านเข้ารอบฯ มี โปรตุเกส ,
อังกฤษ , สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์